เฮียแกออกมาข่มขู่อีกแล้วพี่น้อง

เฮียแกออกมาข่มขู่อีกแล้วพี่น้อง
๘ เมษายน ๒๕๕๙

พระเมธีธรรมาจารย์ – เจ้าคุณประสาร
๘ เมษายน ๒๕๕๙

เตือนไพบูลย์และกลุ่มพี่เลี้ยงด้วยความหวังดี
จากการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ ๖ เมษายน ที่ผ่านมา ของคุณไพบูลย์ นิติตะวัน นั้น
คุณไพบูลย์ ให้รายละเอียดว่า มีหลักฐานที่จะเอาผิดกับเจ้าประคุณสมเด็จฯ วัดปากน้ำได้ กรณีรถโบราณในพิพิธภัณฑ์ของวัด

อาตมาได้พูดมาตลอดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องผิดปกติ ที่บอกว่าผิดปกติเพราะมีกลุ่มบุคคลได้เซ็ตเรื่อง เซ็ตเหตุการณ์ เซ็ตสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การขัดขวางการเสนอรายนามสมเด็จพระราชาคณะเพื่อทูลเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช

เรื่องที่คุณไพบูลย์พูดออกมา อาตมาจึงไม่แปลกใจใดๆ เลย เพราะในสังคมนี้ได้รับรู้มาโดยตลอดว่า ใครเป็นใคร ทำอะไร เพื่อหวังผลเช่นไร
แต่ที่ค่อนข้างแปลกใจคือ ทำไมฝ่ายที่รับผิดชอบ เช่น ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาล จึงไม่ห้ามปรามใดๆ กับคนเหล่านี้ ทำไมไม่พูด ไม่อะไรสักอย่าง เพื่อหยุดยั้งคนเหล่านี้บ้าง ทำไมถึงรับได้กับกลุ่มบุคคลเดิมๆ บุคคลที่คอยออกมาก้าวร้าวล่วงเกินคณะสงฆ์ขนาดนี้

ทำไมรับได้

ทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลหรือแม้แต่รัฐบาลก็ตาม อาตมาและองค์กรพุทธได้แสดงออกให้เห็นหลายครั้งหลายคราว่าสิ่งที่รับไม่ได้มากที่สุดก็คือ การก้าวร้าว คุกคาม ล่วงเกิน และไม่ถวายเกียรติกับประมุขฝ่ายสงฆ์

เหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงจะบานปลายออกไปอีกทั้งที่ควรจะยุติได้ ก็เพราะเหตุจากพวกคนกลุ่มนี้ที่มีพี่เลี้ยงดีหนุนหลัง พวกเขาสร้างเรื่องโดยไม่คำนึงถึงความถูกความผิดและไม่รู้จักกาลเทศะ
จึงขอเตือนและส่งความปรารถนาดีไปยังคุณไพบูลย์และกลุ่มพี่เลี้ยง ถ้าหวังจะยุติปัญหาทั้งหลายทั้งปวงในขณะนี้

พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร จนฺทสาโร)
‪#‎เจ้าคุณประสาร‬
8 เมษายน 2559

[ที่มา: เฟสบุ๊ค พระเมธีธรรมาจารย์ – เจ้าคุณประสาร
https://www.facebook.com/ck.prasarn/photos/a.614839195352069.1073741828.614507892051866/641624456006876/?type=3&theater]
…………………………………..

อ่านคำผายลมของเฮียแกแล้ว ดูท่าจะป่วยจริง

เพราะไม่ว่าแกจะผายลมกี่ครั้ง แกก็จะย้ำทำ ย้ำคิด ร่ำร้องแต่คำว่าเอาตำแหน่งสังฆราชของสมเด็จช่วงคืนมา

อาตมาได้พูดมาตลอดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องผิดปกติ ที่บอกว่าผิดปกติเพราะมีกลุ่มบุคคลได้เซ็ตเรื่อง เซ็ตเหตุการณ์ เซ็ตสถานการณ์ เพื่อนำไปสู้การขัดขวางการเสนอรายนามสมเด็จพระราชาคณะ เพื่อทูลเกล้าสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช

ดูท่าเฮียแกจะบวชเข้ามาเพื่อเรียกร้องตำแหน่งสังฆราชให้กับผู้ต้องสงสัยคดีครอบครองรถเถื่อนเสียจริงๆ

ที่เฮียพูดว่า มีกลุ่มบุคคลได้เซ็ตเรื่อง เซ็ตเหตุการณ์ เซ็ตสถานการณ์

ถามเฮียว่า ใครคือกลุ่มบุคคลเหล่านั้น ใครคือกลุ่มพี่เลี้ยงเหล่านั้น

นิสัยกระล่อน ปลิ้นปล้อน โกหก ใส่ร้ายน่ะ เฮียแกดูจะแก้ไม่หายเสียทีนะ

เฮียเชื่อจริงๆ หรือว่าพวกเราเป็นคนสร้างเรื่อง สร้างเหตุการณ์ สร้างสถานการณ์ มาใส่ร้ายว่าที่สังฆราชของเฮีย

เฮียคิดว่าไอ้ความมักมากอยากได้ของสมเด็จช่วงนี่ พวกเราเป็นคนสร้างขึ้นแล้วยัดใส่สมองให้ว่าที่สังฆราชของเฮียได้จริงน่ะหรือ

แล้วที่ว่าที่สังฆราชของเฮียเซ็นเช็คจ่ายเงินซื้อรถหรูเถื่อนเอาไปสะสมไว้

ทำไมเฮียไม่ลองคิดดูบ้างว่า ไอ้เรื่องเสียหายเดือดร้อนที่ว่าที่สังฆราชของเฮียกำลังได้รับนี้ล้วนมาจากเหตุอะไร

หากไม่รู้จะบอกให้

เพราะชีวิตว่าที่สังฆราชของเฮีย

ไม่ได้เป็นไปเพื่อ ความคลายกำหนัด

ไม่ได้เป็นไปเพื่อ ความไม่ประกอบทุกข์

ไม่ได้เป็นไปเพื่อ ไม่สะสมกองกิเลส

ไม่ได้เป็นไปเพื่อ ความอยากน้อย

ไม่ได้เป็นไปเพื่อ ความสันโดษ

ไม่ได้เป็นไปเพื่อ ความไม่คลุกคลี

ไม่ได้เป็นไปเพื่อ ความพากเพียร

ไม่ได้เป็นไปเพื่อ ความเลี้ยงง่าย

หากสมเด็จช่วงของเฮียซื่อตรงต่อพระธรรมวินัย ใครเขาจะไปหาเรื่องเซ็ตเหตุการณ์ สร้างสถานการณ์ใส่ร้ายได้

และที่สมเด็จช่วงของเฮียมีเรื่องเสียหายเช่นนี้ เพราะทำตัวเองตะหากเล่า

“ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ เลวระยำอยู่ที่ทำตัว”

บวชเข้ามาจนเป็นเจ้าคุณเคยได้ยินคำว่า
สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง

“ความบริสุทธิ์และความไม่บริสุทธิ์รู้ได้เฉพาะตน” ไหม

และที่เฮียพูดว่าสังคมนี้รู้มาตลอดว่าใครเป็นใคร ทำอะไรเพื่อหวังผลอะไร

ขอบอกเฮียว่า แรกๆ สังคมเขาไม่รับรู้หรอกว่าใครเป็นใคร ใครมีความฟอนแฟะเน่าเหม็นขนาดไหน ใครที่มันแฝงอยู่ในสังฆมณฑลและย่ำยีทำลายพระธรรมวินัยอย่างไร

แต่พอพวกเรานำเอาหลักฐานให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองตรวจสอบ ผลก็ออกมาอย่างที่สังคมรับรู้นี่ไง

การที่พวกเรานำเอาหลักฐานความผิดของพวกอลัชชีที่ทำให้หมู่สงฆ์เสื่อมเสีย ไปให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจัดการกำจัดให้ออกไปจากสังคมสงฆ์

หากเฮียเป็นบริสุทธิสงฆ์ เฮียน่าจะดีใจ เว้นเสียแต่ว่า เฮียเป็น “อ้วกเอียวอัน”

และขอบอกว่า รัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐ เขาไม่ได้ปัญญาอ่อนที่จะรับเรื่องเอาไว้ทุกเรื่องโดยไม่มีข้อมูลความจริง

มิเช่นนั้นคนที่ไปร้องทุกข์กล่าวเท็จ ก็จะถูกข้อหาแจ้งความเท็จกันเอง

แล้วเฮียจะเดือดร้อนอะไร

หยุดสันดานแถกแถ ทำให้สังฆมณฑลและสังคมเข้าใจผิด คิดผิด เห็นผิด เสียทีเถิดเฮีย

เฮียไม่รู้หรือว่าการพยายามทำให้ความจริงกลายเป็นเท็จ

ทำความเท็จให้กลายเป็นจริงอย่างที่พวกเฮียทำอยู่นี่

พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่าพวกมิจฉาทิฏฐิ คือผู้มีความเห็นผิดไว้ใน ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ ธรรมบท อิติวุตตกะติกนิบาตร วรรคที่ ๓ เรื่องมิจฉาทิฐิสูตร

องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสคาถาประพันธ์ไว้ดังนี้

บุคคลในโลกนี้ตั้งใจไว้ผิด(มิจฉาทิฏฐิ) แล้วกล่าววาจาผิด

กระทำการงานผิดด้วยกาย ผู้มีการสดับน้อย ทำกรรมอันไม่เป็นบุญ

สะสมเอาไว้ในชีวิตที่มีอยู่น้อยนิด ในมนุษย์โลกนี้ เมื่อเขามีปัญญาทราบเห็นปานนี้ ครั้งตายไป ย่อมเข้าถึงนรก ทุคติสิ้นกาลนาน

เลิกเสียเถอะเฮีย ไอ้นิสัยพูดดำให้เป็นขาว พูดขาวให้เป็นดำ ในที่สุดชีวิตของเฮียก็ต้องไปหมกไหม้ในนรกไม่รู้วันสิ้นสุด นี่เตือนด้วยความหวังดีนะเฮีย

และที่เฮียบอกว่าพวกเราก้าวร้าวล่วงเกินคณะสงฆ์

ถามเฮียว่า ผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยนี่เขาเรียกว่าคณะสงฆ์ด้วยหรือ

หรือเฮียกำลังพยายามดึงเอาคณะสงฆ์ให้มาตกต่ำ มาเป็นผู้ต้องหา เป็นผู้ต้องสงสัยร่วมด้วย

คงคิดว่าวิธีพวกมากลากกันมานี่จะสามารถปกป้องอลัชชีได้ล่ะซิท่า

อยากบอกว่าถ้าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย ที่รัฐบาลต้องอาศัยพวกมากจึงลากมามีอำนาจ

วิธีที่พวกเฮียใช้พวกมากอาจสามารถกลบเกลื่อนหรือปลดปล่อยให้อลัชชีชั่วลอยนวลได้ดังเช่นในยุคปี ๔๒

เพราะอาศัยพวกมากลากกันออกมาปกป้อง ธัมมชโย มันถึงได้รอดลอยนวล สร้างความเสียหายให้แก่พระธรรมวินัยมาจนถึงวันนี้ หน้ำซ้ำยังสร้างเครือข่ายอลัชชีเพิ่มพูนมากขึ้น อย่างเช่นพวกเฮียนี่ไงล่ะ

และเฮียกำลังพยายามรับใช้อลัชชีชั่วพวกนี้อยู่แบบชนิดถวายชีวิตเลยล่ะเฮีย

ที่เฮียบอกว่าพวกเราไม่ถวายเกียรติกับประมุขสงฆ์

ก็ประมุขสงฆ์ของเฮียดันกลายเป็นผู้ต้องสงสัย และถ้าหากไม่ไปให้ปากคำ คงจะกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีครอบครองรถเถื่อนนะเฮีย

อย่างนี้แล้วจะมาบังคับให้สังคมเขาพินอบพิเทา กราบกรานให้เกียรติกับว่าที่ผู้ต้องหากระนั้นหรือ

ถามเฮียจริงเถิด ความเคารพยอมรับ ให้เกียรติ นี่มันถึงกับต้องบังคับกันด้วยหรือ

แล้วที่เฮียขู่ว่า เหตุการณ์ทั้งปวงจะบานปลายออกไปทั้งที่ควรจะยุติได้

คำว่าทั้งที่ควรจะยุติได้ของเฮียนั้นหมายถึงอะไร
คงไม่หมายถึง หยวนๆ ยอมๆ คดีความก็ถอนฟ้องกันไปเพื่อความสงบปรองดองหรอกนะ

อย่าเชียวนะเฮีย อย่าแม้แต่จะคิด

เพราะไอ้คำว่า หยวนๆ ยอมๆ เพื่อความปรองดองนี่แหละ ที่นายทักษิณมีจดหมายน้อยส่งให้มหาเถร ส่งให้กรมศาสนา สั่งให้อัยการอ้างความปรองดอง เลยถอนฟ้องอลัชชีปาราชิกธัมมชโยในปี ๔๒-๔๕ ไง

หากคำว่าควรยุติได้ของเฮียหมายถึงอย่างนี้

เฮียไม่ต้องขู่พวกเราหรอก

พวกเรานี่แหละจะบอกเฮียว่า หน้าสำนักพุทธและที่ประชุมมหาเถร จะเต็มไปด้วยผู้คนและนักบวชไปทวงถามว่า

จะรักษาพระธรรมวินัย หรือจะรักษาอลัชชีปาราชิก

เฮียนี่มันสมองกลวงเกินเยียวยาจริงๆ พูดออกมาได้ว่าพวกคนกลุ่มนี้มีพี่เลี้ยงดีหนุนหลัง

ใครว่ามา พูดให้ชัดๆ อย่ามาสร้างวาทกรรม ยุให้รำ ตำให้รั่ว ทำตัวเป็นพวกไอ้ไขลู

และที่บอกว่าเราสร้างเรื่องโดยไม่คำนึงถือความถูกต้อง ความผิด ไม่รู้จักกาลเทศะ

เอ่อ… อันนี้หมายถึงตัวเฮียเองใช่ไหม

ไหนๆ เฮียก็กล่าวหาว่าพวกเราสร้างเรื่อง

เดี๋ยวสัปดาห์หน้าจะไปหาเรื่องให้เฮียอีกซักที

เฮียเตรียมตัวรอฟังก็แล้วกันว่าจะเป็นเรื่องอะไร

อดใจรอนะเฮีย

พุทธะอิสระ