ธรรมใด เกิดแต่เหตุ หากจะดับธรรมนั้น ต้องดับที่เหตุ

ชาวบ้านเขาถวายที่ดิน และเงินให้เป็นการส่วนตัว แก่เจ้าลัทธิธรรมกาย

แล้วมันจะผิดตรงไหนที่จะนำไปใช้จ่าย

คนมันจะโง่ ไม่ว่ากี่ภพ กี่ชาติ มันก็เกิดมาโง่

เหตุเพราะไม่เสพเรื่องจริง ปฏิเสธความจริง ไม่พยายามเรียนรู้ศึกษาของจริง

มันถึงได้ถูกเขาสวมเขา แหกตา หลอกลวง กันอยู่อย่างนี้ไง

ขอบอกอีกสักครั้ง เผื่อในกะโหลกจะมีมันสมองหลงเหลืออยู่บ้าง

เรื่องที่สมเด็จพระสังฆราชที่ทรงโจทก์และวินิจฉัย ไม่ใช่ทรัพย์ของที่ถวายเป็นส่วนตัว และไม่ใช่เรื่องที่ดิน

แต่พระองค์ทรงโจทก์และวินิจฉัย เรื่องเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายยักยอกเงิน ๙๓๙ ล้านบาท ออกจากบัญชีของวัด ให้ต้องอาบัติปาราชิก ตั้งแต่นำเงินวัดออกจากบัญชีวัดไปแล้ว

และส่วนที่โอนให้กับหน้าม้า ของธมฺมชโย ไปกว้านซื้อที่ดิน ๑,๗๐๒ ไร่ แล้วนำมาใส่ชื่อตน นั่นถือว่าเป็นพฤติกรรมยักยอกซ้ำซากเป็นครั้งที่สอง

แต่พอเรื่องมันแดงขึ้น จนมีการแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานสอบสวนสืบสวนกองปราบ

เมื่อได้หลักฐาน ชัดเจนว่า ธมฺมชโย ยักยอกเงินวัด จึงทำเรื่องส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง

เมื่อพยานหลักฐานเอกสาร และบุคคล พร้อมมูล พนักงานอัยการจึงสั่งฟ้อง เมื่อศาลรับฟ้อง พร้อมกับทำการสืบพยาน มาตลอด ๗ ปี เหลือสืบพยานอีกแค่ ๒ ปาก

นายทักษิณเข้ามามีอำนาจ จึงมีหนังสือแจ้งกับอัยการและมหาเถรให้ยุติคดี โดยอ้างการปรองดอง

และมหาเถรก็บ้องตื้น ปล่อยให้การเมืองเขามาแทรกแซงสังฆมณฑล

จนยอมยุติการพิจารณาคดี แม้แต่ขบวนการนิคหกรรม พลอยหยุดไปด้วย

สรุปรวมความว่า นายไชยบูลย์ สิทธิผล หรือ ธมฺมชโย ไม่ได้โกงที่ดินวัด แต่ยักยอกเงินวัดไปซื้อที่ดิน

ขอย้ำว่าเงิน ๙๓๙ ล้านนั้นเป็นชื่อของวัด ตามหลักฐานที่ปรากฏในชั้นศาล

พวกมีเขาอย่ามาแถว่า เป็นเงินถวายส่วนตัว อย่าช่วยกันจนแยกไม่ออกว่าอะไรจริงอะไรเท็จ เดี๋ยวจะโง่ไปอีกชาติ เสียดายแย่

เอาเป็นว่า อดใจรออีกซักนิด เพราะฉันไปยื่นเรื่องเอาไว้ที่อัยการสูงสุดให้ทบทวน รื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาสั่งฟ้องใหม่

ซึ่งตอนนี้คดีได้ถูกหยิบยกขึ้นมา โดยคณะกรรมการที่อัยการสูงสุดตั้งขึ้น

แล้วจะได้รู้กันว่า เงินก้อนนั้น ใครถวาย ถวายให้ใคร เพื่ออะไร

ยัง ยัง ไม่หมด แค่นี้ ยังมีคดีอวดอุตริมนุสธรรม คดีความผิด พรบ. คอมพิวเตอร์ ความผิดฐานฟอกเงินและฉ้อโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ความผิดแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ และความผิดกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒

ทีนี้จะดูว่า มหาแถจะคุ้มกะลาหัวอลัชชีชั่วอยู่อีกไหม

พุทธะอิสระ