๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๘
เข้าพรรษาปีนี้ เราท่านทั้งหลายลองมาศึกษาประโยชน์ของการมีสติ ปัญญา (สัมปชัญญะ) ที่ตั้งมั่นอยู่ดีแล้วกันหน่อย (ตอนที่ ๒)
ว่าจักสามารถพัฒนาให้เกิดปัญญาสูงสุดอย่างละเอียด รอบคอบ เข้าใจรู้จักตามสภาพธรรมที่ปรากฎตามความเป็นจริง ด้วยการลองศึกษาในวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ ให้กระจ่างชัดดังต่อไปนี้
วันนี้เราท่านทั้งหลายลองมาติดตามศึกษาวิปัสสนาญาณข้อที่ ๒ ที่มีชื่อว่า ภังคานุปัสสนาญาณ หมายความว่า
ญาณอันเล็งเห็นความแตกสลายหรือเห็นความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และแตกสลายดับไปเป็นธรรมดา ไม่มีสัตว์ บุคคลใด สิ่งใดๆ คงที่ตลอดกาล ตลอดสมัยเป็นนิจนิรันดร ไม่เว้นแม้แต่พระอริยเจ้า แม้จักดำรงอยู่ได้ด้วยคุณวิเศษเป็นกัปเป็นกัลป์ แต่สุดท้าย ก็ต้องแตกสลายดับไป จนถึงที่สุดก็คือ พระธรรม ที่ทำให้พระอริยเจ้าเหล่านั้นได้เข้าถึงคุณวิเศษ ก็ต้องสูญสลายหายไปดังพระพุทธพจน์ที่ทรงตรัสว่า
สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ
แม้ธรรมทั้งหลายก็ไม่มีอยู่จริง
เมื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ประเสริฐสุด เช่น พระธรรมยังมิอาจดำรงอยู่ได้ สาอะไรกับสรรพชีวิตน้อยๆ อย่างเราท่านทั้งหลายก็คงต้องถึงกาลแตกสลายดับไปในที่สุด ส่วนจะดับด้วยเหตุปัจจัยอะไร
นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับว่าโงงหรือฉลาด
หากโงง งมงาย งี่เง่า มัวเมา ประมาท ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ละภพ แต่ละชาติ ที่แตกสลายดับลงกันไปก็คงจักต้องเผชิญเจอะเจอต่อสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย สรรพเคราะห์ สรรพเสนียด จัญไร อันตรายบีบคั้นจนถึงวันแตกสลายดับไป
แต่หากขณะที่มีชีวิตอยู่ เจริญสติ มีปัญญา รักษากายไม่ให้ลำบาก รักษาวาจาไม่ให้ลำบาก รักษาจิตใจไม่ให้ตกอยู่ในอารมณ์ชั่ว บำเพ็ญประโยชน์อันสมบูรณ์ทั้งของตนและของท่านอย่างซื่อตรง เมื่อถึงคราที่จักแตกสลาย ล้มตายดับไปก็หมดห่วง สิ้นกังวล ปลดเปลื้องพันธนาการของวัฏฏะ ได้จนหมดสิ้น ด้วยอำนาจของสติปัญญาที่รู้เห็นการเกิดดับตามความเป็นจริง
เช่นนี้ก็ถือว่า ดับแล้วเย็น เบาสบาย
โปรดติดตามตอนต่อไป
เจริญธรรม
พุทธะอิสระ
——————————————–
อ่านย้อนหลัง : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid0dzA3QbvkxsTCqMcgEBMrL8qLHwV7nuSbT7sYyAksBYQb2MDf8GZdAF9A2G5waPbFl
——————————————–
July 17, 2025
On this Buddhist Lent (in which monks reside in one place for three months during the rainy season), let us study the benefits of having mindfulness and wisdom (clear comprehension) firmly established (Part 2)
That we can develop supreme wisdom thoroughly and carefully, and view natural phenomena according to reality, by studying and clearly understanding the nine Vipassana knowledge (insightful knowledge) as follows:
Today, let us study the second type of Vipassana knowledge called “Bhanganupassana Knowledge” to perceive disintegration or the arising, existing, and disintegrating as ordinary phenomena.
No living creature, person, or object permanently exists, including Noble Individuals. Though they can exist with exceptional qualities for indefinite eons, they will eventually disintegrate and disappear. In the end, the Dhamma that allowed those Noble Ones to attain special qualities will also disappear, as the Buddha said:
sabbe dhammā anattā
Even all the Dhamma (phenomena) do not exist.
When the noblest thing, such as the Dhamma, cannot exist, what about small beings like us who will eventually face the time of disintegration and extinction? The cause of extinction depends on whether you are stupid or wise.
If you are stupid, ignorant, intoxicated, or careless, you will encounter all suffering, all sorrow, all diseases, all perils, all disasters, all calamities, all evils, and danger till your death.
On the other hand, while being alive, you develop mindfulness and wisdom, take care of your body well, take care of your speech, and take care of your mind so that it does not fall into evil moods, and commit deeds beneficial for both yourselves and others, when the time comes to break down and die, you will be completely free from worries, anxiety, and the cycles of births and deaths by the power of wisdom that perceives births and deaths according to reality.
As a result, the extinguishment of defilements occurs, leading to a serene state of mind.
Please follow the next episode.
Wishing you progress in the Dhamma practice.
Buddha Isara
——————————————–
Previous article : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid0dzA3QbvkxsTCqMcgEBMrL8qLHwV7nuSbT7sYyAksBYQb2MDf8GZdAF9A2G5waPbFl
