เราท่านทั้งหลายลองมาดูลีลาโวหารของโสดาต้นกันหน่อย
๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๗
***********************************
คลิปพระอาจารย์ต้น หัวข้อ บทสวดยันทุนนิมิตตังเหมือนไปสาปแช่งใคร
ลูกศิษย์ : เคยไปเจอในหนังสือสวดมนต์แล้วเค้าให้สวดยันทุนนิมิตตังตอนก่อนนอนอย่างนี้ค่ะ บอกว่าให้หลับฝันดี แต่ว่าพอคุยกับคุณแม่เทียนแล้ว คุณแม่ก็บอกว่าบทนี้มันเหมือนแบบ เราไปสาปแช่งเขาอะไรอย่างนี้ค่ะ หนูก็เลยรู้สึกว่า ไม่ค่อยสบายใจว่า แบบที่หนูสวดมาก่อนหน้านี้แล้วมันจะมีผลกระทบแบบ คือหนูรู้สึกผิดอ่ะค่ะ
พระ อ.ต้น : คือถ้าเราเติบโตมาบนสังคมพุทธที่มีหนังสือมนต์พิธีเล่มเหลืองๆ ไว้ประจำทุกที่ หรือหนังสือเล่มอื่นๆ ที่บันทึกการสวดมนต์ไว้จะมีบทยันทุนนี้อยู่เสมอ พระอาจารย์ก็เติบโตมาในสังคมที่ผ่านวิธีการสวดในบทนี้มา แต่เราลองมามองบทแปล คำแปลของบทยันทุน ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ
*******************************
ยันทุนนิมิตตัง อะวะมังคะลัญจะ โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
ปาปัคคะโห ทุสสุปินัง อะกันตัง พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุฯ
นิมิตอันเป็นลางชั่วร้ายอันใด สิ่งอวมงคลอันใด
เสียงนกที่ไม่ชอบใจอันใด สิ่งที่น่าตกใจอันใด
บาปร้าย เคราะห์ร้ายอันใด ฝันร้ายอันใด สิ่งไม่พึงปรารถนาอันใด ที่มีอยู่
ขอสิ่งเหล่านั้นจงถึงความพินาศไป ด้วยอานุภาพแห่ง พระพุทธเจ้าฯ
*******************************
• ยันทุนนิมิตตัง
: นิมิตอันชั่วร้ายเหล่าใด
• อะวะมังคะลัญจะ
: อันเป็นอวมงคล คือไม่เป็นมงคลเลย
• โย จามะนาโป สะกุณัสสะ สัทโท
: สิ่งใดก็ตามที่ทำให้ใจของเราเนี่ยไม่แช่มชื่น ไม่เบิกบาน หรือเสียงแห่งสกุนา คือ เสียงแห่งนก คือสมัยก่อนเนี่ยเขาถือว่าการได้ยินเสียงนกบางอย่างเป็นลางไม่ดี ฟังแล้วได้ยินแล้วมันทำให้ใจของเราเนี่ยไม่แช่มชื่น ไม่เบิกบาน (สะกุณัสสะ สัทโท) สัทโท คือ เสียง
• ปาปัคคะโห
: บาป
• ทุสสุปินัง อะกันตัง
: แม้แต่ความฝันอันไม่ดี ฝันชั่ว ฝันร้าย ฝันไม่ดี ฝันร้ายทั้งหลาย
• พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ
: ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าจงทำให้สิ่งนั้นพินาศไป
ท่อนนี้แหละเป็นท่อนของการสาปแช่ง คือการทำให้เขาพินาศ ทำให้สิ่งๆ นั้นพินาศ ซึ่งหลักการทางพระพุทธศาสนาเนี่ย ในด้านสัมมาทิฐิเราถือว่าการได้เห็นได้ยินได้ฟังรับรู้สิ่งใดก็ตามที่นำมาซึ่งความทุกข์ ความไม่สบายใจทั้งหลายล้วนแล้วแต่เกิดจากความหลงผิดและความไม่รู้ทางใจของเราเอง ไม่ได้เกิดจากสิ่งเหล่านั้น การพยายามที่จะทำให้สิ่งนั้นพินาศเนี่ยไม่ใช่หลักการทางพระพุทธศาสนา แล้วเขาพยายามไปดึงเอาพุทธานุภาเวนะ คือ อานุภาพของพระพุทธเจ้าไปสาปแช่งให้เขาพินาศ ไปทำให้เขาพินาศ ไปบอกให้เขาพินาศอย่างเงี้ย
แล้วถ้าหากว่าเรารู้สึกว่าคนๆ นี้มีคำพูดใดก็ตามที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี โกรธแค้น ไม่พึงพอใจแล้วสวดบทนี้ มุ่งเพื่อที่จะให้คนๆ นั้นถึงความพินาศ มันคือการก่อเวรซึ่งกันและกัน พุทธศาสนาไม่ได้สอนให้ก่อเวรซึ่งกันและกัน พุทธศาสนาสอนให้มีเมตตา บทเมตตาต่างหากเป็นบทที่เราควรจะทำให้เกิดขึ้นบนจิตใจเราอยู่เสมอ การสวดบทยันทุนนิมิตตังซึ่งเป็นบทที่พระองค์ไม่เคยวางหลักการนี้เอาไว้
———————-จบคลิป———————
พระอาจารย์ต้น : พุทธานุภาเวนะ วินาสะเมนตุ : ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าจงทำให้สิ่งนั้นพินาศไป
– ท่อนนี้แหละเป็นท่อนของการสาปแช่ง
– คือการทำให้เขาพินาศ ทำให้สิ่งๆ นั้นพินาศ
– ซึ่งหลักการทางพระพุทธศาสนาเนี่ย ในด้านสัมมาทิฐิเราถือว่าการได้เห็นได้ยินได้ฟังรับรู้สิ่งใดก็ตามที่นำมาซึ่งความทุกข์ ความไม่สบายใจทั้งหลายล้วนแล้วแต่เกิดจากความหลงผิดและความไม่รู้ทางใจของเราเอง ไม่ได้เกิดจากสิ่งเหล่านั้น
– การพยายามที่จะทำให้สิ่งนั้นพินาศเนี่ยไม่ใช่หลักการทางพระพุทธศาสนา
– แล้วเขาพยายามไปดึงเอาพุทธานุภาเวนะ คือ อานุภาพของพระพุทธเจ้าไปสาปแช่งให้เขาพินาศ ไปทำให้เขาพินาศ ไปบอกให้เขาพินาศอย่างเงี้ย แล้วถ้าหากว่าเรารู้สึกว่าคนๆ นี้มีคำพูดใดก็ตามที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี โกรธแค้น ไม่พึงพอใจแล้วสวดบทนี้ มุ่งเพื่อที่จะให้คนๆ นั้นถึงความพินาศ มันคือการก่อเวรซึ่งกันและกัน พุทธศาสนาไม่ได้สอนให้ก่อเวรซึ่งกันและกัน พุทธศาสนาสอนให้มีเมตตา บทเมตตาต่างหากเป็นบทที่เราควรจะทำให้เกิดขึ้นบนจิตใจเราอยู่เสมอ
– การสวดบทยันทุนนิมิตตังซึ่งเป็นบทที่พระองค์ไม่เคยวางหลักการนี้เอาไว้
***************************
พุทธะอิสระเห็นต่างนะจาน
การที่ผู้คนเขาสวดสาธยายมนต์พระปริตรไม่ว่าจะบทไหนๆ ล้วนมาจากความเชื่อว่า มนต์พระปริตรนั้นๆ เป็นมนต์ที่ประกอบไปด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ที่สามารถปกป้อง คุ้มครอง รักษาผู้สวด ผู้สาธยายด้วยจิตศรัทธา และเขาก็สาธยายกันมาแบบนี้เป็นพันปีแล้ว
ไม่เว้นแม้แต่มนต์พระปริตรที่จานแนะนำ สนับสนุนให้สาวกของจานสาธยาย เช่น
รัตนปริตร เป็นบทสวดเชิญชวนให้ภูตและเทวดาทั้งหลายมาร่วมฟังคำสดุดีพระรัตนตรัย เพื่อให้จิตเลื่อมใสมีความเมตตา เลิกเบียดเบียนมนุษย์ และรักษาคุ้มครองให้อยู่เป็นสุขทุกเมื่อ
อาฏานาฏิยปริตร เป็นบทสวดที่ท้าวเวสสุวัณแต่งขึ้นทูลถวายพระพุทธเจ้า เพื่อประทานให้เหล่าภิกษุสวดคุ้มครองตนจากยักษ์ ภูตผีปีศาจ และเหล่าอมนุษย์ทั้งหลาย ปัจจุบันนิยมนำมาสวดขับไล่เสนียดจัญไรและอำนาจคุณไสย โดยจัดเป็นพิธีกรรมใหญ่โต เรียกว่า “สวดภาณยักษ์”
ขันธปริตร เป็นบทสวดแผ่เมตตาให้กับพญางู ๔ ตระกูล ได้แก่ ตระกูลสีเขียว สีทอง สีดำ และสีรุ้ง รวมถึงสัตว์ที่ไม่มีเท้า, สัตว์ ๒ เท้า, ๔ เท้า และสัตว์ที่มีเท้ามาก ขอให้สัตว์ทั้งหลาย จงมีเมตตาอย่าทำอันตรายเรา ผู้ซึ่งมีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ที่ทรงคุณอันยิ่งใหญ่คุ้มครองอยู่
๒ พันกว่าปีที่พระพุทธศาสนาเผยแผ่อยู่ ซึ่งก็จะนับตั้งแต่องค์พระบรมศาสดาและอรหันต์ (ซึ่งก็มีอยู่เกลื่อนกลาด) ก็ไม่เห็นมีใครผู้ใดออกมาตำหนิ โจมตีมนต์พระปริตร มนต์ใดๆ เลย
จะมีก็แต่โสดาต้นคนนี้นี่แหละ ที่ชอบพูดชอบสอน เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น
ไหนบรรดาศิษย์ทั้งหลายชอบโพทนาว่า จานมีแนวคิดที่สามารถเข้ากับคนคนรุ่นใหม่ได้หรือคนรุ่นใหม่ในหลักคิดของจาน คือ การยกตนข่มท่าน ดูถูก เหยียดหยามคนรุ่นเก่า (ไม่เว้นแม้แต่พระพุทธเจ้าที่จานจาบจ้วง)
ไหนบรรดาสาวกจานโพทนาว่า จะเข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศของความปรองดอง แต่ตั้งแต่ที่จานผายลมสั่งสอนสาวกของจานมา ก็ล้วนมีแต่สร้างความขัดแย้งในประเด็นต่างๆ ของคำสอนในพระพุทธศาสนา ไม่เว้นแม้แต่ขบมธรรมเนียมจารีตประเพณีของคนไทยที่ทำสืบต่อกันมาเป็นร้อยๆ ปี จานก็มาดูหมิ่น เหยียดหยามเขา เช่น กรณีบูชาน้ำพระพุทธรูป จานก็ผายลมสอนสาวกจานว่า เอาไปให้หมากินยังได้บุญมากกว่า
พฤติกรรมล่าสุดนี้ ก็มาผายลมใส่คนที่สาธยายมนต์พระปริตรบทยันทุน เป็นคนสวดที่สร้างมิจฉาทิฐิ เป็นคนสวดที่สร้างเวรสร้างกรรม
ดูท่าคนอื่นๆ ทำอะไรผิดหมด มีแต่จานคนเดียวทำอะไร พูดอะไร คิดอะไร ล้วนถูกหมดใช่ไหมจาน
เอ…หากคนสอนดี สอนถูกต้องตรงธรรม ตรงวินัย แล้วมหาเถรทำไมต้องตั้งกรรมการสงฆ์ออกมาวินิจฉัยคำสอนของจานว่าผิดธรรม ผิดวินัยเหล่าจาน
งานนี้พุทธะอิสระยังมีความคิดต่างในคำสอนของจานอยู่อีกหลายเรื่องหลายประเด็น คงไม่ว่ากันนะจาน
พุทธะอิสระ
——————————————–
——————————————–
