บทความ
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ขออนุญาตแชร์นะจ๊ะ
๒๗ มีนาคม ๒๕๕๙
พุทธะอิสระ
………………………………………………….
ฟ้องนายก !
เตะถ่วงสมเด็จช่วงไม่ให้เป็นสังฆราช
ผิดกฎหมายคณะสงฆ์
สมาคม 27 ประโยค ประกาศ
หุหุ ! ว่าแล้ว พวกอุตริปล้นเอา “ป.ธ.9” ไปเป็นของตนเองนั้น มันเหลวไหลตั้งแต่เริ่มต้น มาดูบทบาทวันนี้กันบ้าง อ่านข่าวไปก็ “อาย” แทนประโยคเก้าทั่วโลก เรียนจนจบ ป.ธ.9 แถมเพิ่มเติมวิชา พรบ.คณะสงฆ์ แต่ก็ไม่น่าจะอ่อนหัดถึงกับไม่รู้ว่า “บิ๊กตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจ “เป็นรัฏฐาธิปัตย์” สามารถฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ตั้งรัฐบาลปกครองประเทศเอง และขณะนี้ก็ยังมีอำนาจพิเศษ เป็น “ม.44” อยู่ในมือ ซึ่งอำนาจที่ว่านี้ ยังสามารถ “ฉีก” พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ทิ้ง และเขียนฉบับใหม่ให้พระสงฆ์ใช้ “โดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด” อีกด้วย โดยทั้งนี้ มหาเถรสมาคมทุกตำแหน่ง ก็ต้อง “กระเด็น” สิ้นสภาพไปด้วย ไม่เว้นแม้แต่ตำแหน่ง “ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช” ของสมเด็จช่วง หรือแม้แต่คุณสมบัติ “อาวุโสโดยสมณศักดิ์” ก็เช่นกัน บิ๊กตู่จะเขียนให้เป็น “อาวุโสโดยพรรษายุกาล” ก็ได้ หรือจะเขียนเป็นอื่นใด เช่น ให้มีคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารคณะสงฆ์ “ระดับสูง” ทำนองสภาเปรซิเดียม ให้บรรดาสมเด็จพระราชาคณะ “หมุนเวียนกัน” ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานสภา ก็ได้อีก แล้วถามว่า คนเป็นถึงนายกสมาคมเปรียญเก้าโฉดเขลาปานนั้นเชียวหรือ ถึงไปฟ้องร้องนายกรัฐมนตรีที่มาจากปลายกระบอกปืน หรือว่าอยากจะโดน “เรียกปรับทัศนคติ” เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูล
สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันนั้น ชาวบ้านทั่วไปเขาก็ยังรู้ ว่าอยู่ในสถานะ “ภายใต้การรัฐประหาร” ซึ่งก็คือไม่ปรกตินั่นแหละ แต่ สนพ. ก็ดี สมาคมเปรียญเก้าก็ดี ซึ่งอวดตัวเองว่าเป็นนักปราชญ์-ผู้รู้ ทั้งทางโลกและทางธรรม กลับไม่รู้เรื่องเหล่านี้ แล้วแบบนี้สู้ไปจะชนะหรือ สมเด็จช่วงจะได้เป็นสังฆราชหรือ คุ้มหรือ กับการเอา “เปรียญเก้า” ของพระเณรทั้งประเทศไปขายกิน ยุบทิ้งเสียเถอะ สมาคมซังกะบวยนี่ มันผิดประเวณีตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ทำงานศาสนา แต่ว่าขี้โกง ใครจะให้ความเชื่อถือ !
ซบวัดปากน้ำ !
นายรักสยาม นามานุภาพ (ซ้ายสุด) พร้อมคณะ
เข้าถวายสักการะสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ที่วัดปากน้ำ
เพื่อถวายตราสารการจดทะเบียน “สมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค”
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 18.30 น.
…………………………………………………….
ส.เปรียญธรรมจ่อเอาผิดนายกฯ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่
วันนี้( 26 มี.ค.) นายรักสยาม นามานุภาพ นายกสมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลยังไม่เสนอนามสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ตามมติมหาเถรสมาคม (มส.) ขึ้นทูลเกล้าฯ ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม 2535 ว่า มส. มีมติเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะ เพื่อสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ให้แก่รัฐบาล ตั้งแต่เดือนมกราคม 2559 ขณะนี้ก็ล่วงเลยมากว่า 3 เดือนแล้วจะถือเป็นการเลยเวลาอันสมควรหรือไม่ ดังนั้น สมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค จะหารือกับนักกฎหมายในเร็วๆ นี้ ว่า การที่รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการตามมติ มส. ส่งผลให้เกิดคู่แข่ง เกิดความเสียหายต่อการปกครองคณะสงฆ์ และพระพุทธศาสนา จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ รวมทั้งดูว่าใครจะเป็นผู้เสียหายที่จะดำเนินการได้อย่างไร หากสมาคมฯ สามารถดำเนินการได้ก็จะดำเนินการฟ้องร้องนายกรัฐมนตรีตามกฎหมาย ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
“มีองค์กรคณะสงฆ์มากมายที่ได้รับผลกระทบนี้ เช่น องค์กรพระธรรมทูต องค์กรเผยแผ่ ซึ่งต้องมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานในหลายองค์กรโดยตำแหน่ง เมื่อดำเนินการล่าช้าก็เกิดความเสียหาย ทำให้องค์กรคณะสงฆ์ต่างๆ ออกมาเรียกร้องทั่วโลก เพราะประสบปัญหาเนื่องจากไม่มีผู้บังคับบัญชา ก็อาจจะสามารถฟ้องเอาผิดต่อนายกรัฐมนตรี ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายได้ เพื่อให้กฎหมายมาคุ้มครองกระบวนการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชให้ดำเนินต่อไปได้ นอกจากนี้ยังมีกฎหมายอีกข้อหนึ่งคือ ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์ บางเรื่องยังไม่มีการตัดสิน ก็ไปใส่ความจนภาพลักษณ์มัวหมอง เช่น การใส่ความสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ว่าผิดอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่กระบวนการยุติธรรมยังไม่ได้เริ่ม ยังไม่มีการตัดสิน หรือการใส่ความมหาเถรสมาคมว่าเล่นพวกเล่นพ้อง โดยไม่มีผลทางกฎหมายว่าเป็นความผิด ก็ถือว่าเป็นการใส่ความ เป็นต้น สามารถแจ้งความเอาผิดต่อผู้ใส่ความให้เกิดความเสียหายได้เช่นกัน”นายกสมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค กล่าว
ข่าว : เดลินิวส์ : 27 มีนาคม 2559
………………………………………………….
(ขอบคุณบทความจาก alittlebuddha.com)