บทความ
คนมันไม่รู้ ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติ มันก็ไม่พยายามแสวงหาความรู้
๓ มีนาคม ๒๕๕๙
มีคนกระแนะกระแหนกล่าวหา ฉันคุยว่าหาเงินให้วัดและมูลนิธิเป็นค่าใช้จ่ายเดือน ๔-๕ ล้าน
แล้วทำไมถึงต้องมาให้คนงานปลูกผักขายผักเพื่อนำเงินนั้นมาจ่ายค่าปรับศาล
ที่จริงก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับคนพวกนี้ เพราะต่อให้พยายามอธิบายยังไง มันคงไม่ซึมเข้าไปในกะโหลกหนาๆ ของคนมีอคติพวกนี้ได้หรอก
แต่ไหนๆ หลายคนสงสัยก็จะอธิบายให้เข้าใจว่า
เงินที่เขาถวายฉันมาทุกบาททุกสตางค์ ฉันยกให้วัดและมูลนิธิ ไม่คิดจะนำมาใช้ในเรื่องจ่ายค่าปรับใดๆ ให้กับใคร
เพราะผู้ให้เขาถวายพระเขาไม่ได้ถวายให้ผู้ต้องหา
ฉันก็ไม่ควรนำเงินที่เขาถวายพระมาให้ผู้ต้องหาจ่ายค่าปรับ มันเท่ากับนำเงินชาวบ้านไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
อาจจะเจอข้อหายักยอกทรัพย์หรือไม่ก็เป็นอาบัติปาราชิกฐานยักยอกหรือตู่เอาทรัพย์
แม้เงินที่เขามาถวายให้ฉันใช้เป็นส่วนตัวก็ตาม แต่ไม่มีใครพูดเลยว่า นำมาให้ผู้ต้องหาเอาไว้จ่ายค่าปรับ
ฉันจึงส่งถวายวัดและมอบให้มูลนิธิเพื่อส่งเสริมบุญคุณงามความดีของเขาให้รุ่งเรืองเจริญในบุญนั้นมากขึ้น
ชั่วชีวิตฉันคิดเสมอว่า ฉันไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีมากพอที่จะไปเป็นผู้รับวัตถุทานอันเลิศของใครๆ
แต่ก็ไม่ชั่วถึงขนาดโกงเงินคนแก่ ที่เขาฝากกินดอกเบี้ยในสหกรณ์ พอฉันให้ดีเอสไอไปเจรจาขอคืน กลับโดนเจ้าสำนักธรรมกายตอบปฏิเสธ แถมท้าว่าอยากได้ไปฟ้องเอา
แม้ฉันไม่ได้ดีเด่อะไรมากนัก แต่ก็ไม่เคยนำเงินที่ชาวบ้านเขาถวายมาใช้ส่วนตัว เพราะกลัวว่าจะต้องมาเกิดเป็นควายไถนาใช้หนี้เขาไป ๕๐๐ ชาติ
แต่เมื่อมีผู้นำมาถวาย ฉันก็จะส่งมอบให้กับวัดกับพระศาสนาหรือส่วนรวมคือมูลนิธิ เพื่อจะได้เกิดประโยชน์จากทรัพย์นั้นเต็มที่ อานิสงส์จักบังเกิดแก่ผู้ให้มากขึ้น
แม้ทรัพย์สินที่เกิดจากภูมิปัญญาของฉันที่คิดผลิตสมุนไพร สบู่ ยาสีฟันตั้งมากมายถึง ๔๐ กว่ารายการ กับยาสมุนไพรอีก ๘๐ กว่าพิกัด
รายได้ทั้งหมดก็ตกเป็นของวัดและมูลนิธิ ฉันไม่เคยได้นำเงินมาใช้เป็นส่วนตัวเลย
และการที่ฉันออกไปต่อสู้ในเวที ฉันก็ไม่ได้ขอทุนจากนักการเมืองหรือพรรคการเมืองกลุ่มไหน นอกจากแม่ให้ ที่เหลือต้องขอกู้หยิบยืมมาจากลูกศิษย์ลูกหาที่เขารักศรัทธาในตัวฉัน โดยไม่คิดดอกเบี้ย
จนถึงวันนี้ฉันยังไม่ได้ชดใช้ให้แก่เขาด้วยซ้ำ
ฉะนั้น คนที่มากระแนะกระแหนว่าฉันสร้างภาพ น่าจะไม่ถูกต้องนะ
เพราะคนอย่างพุทธะอิสระ ถ้าต้องการจะสร้างภาพ คงไม่ออกไปเป็นพญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะหรอก
แค่นั่งๆ นอนๆ ชูคอรอรับแขก หากินกับศรัทธาของชาวบ้าน ทำตัวให้ดูดีตีเนียน เป็นที่เคารพกราบไหว้ของชาวบ้าน ภาพของฉันคงจะไม่ดูเลวร้ายในสายตาของพวกคุณขนาดนี้หรอก
แต่คนอย่างพุทธะอิสระ พญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะ ชั่วชีวิตไม่เคยคิดจะสร้างภาพ
แต่กำลังจะสร้างบรรทัดฐานของภิกษุบริษัทผู้เห็นชอบตามครรลองทำนองคลองธรรม บุญคือบุญ บาปคือบาป กุศลคือกุศล อกุศลคืออกุศล ถูกคือถูก ผิดคือผิด ดีคือดี ชั่วคือชั่ว
ไม่ใช่ละโมบ โลภ กลัวจนแยกแยะดีชั่วไม่ได้ เอามาปนกันมั่วอย่างที่มหาเถรและสำนักพุทธกำลังทำอยู่ในเวลานี้
เพราะเห็นว่าธรรมกายมันจ่ายเงิน จ่ายงามๆ จ่ายมากๆ จึงปล่อยปละละเลย แม้มันจะทำลายย่ำยีพระธรรมวินัยอย่างไรก็ไม่แยแส
มหาเถร สำนักพุทธ อาจละเว้นคนชั่วพวกนี้ไว้ได้
แต่ไม่ใช่พุทธะอิสระแน่
คนอย่างฉันไม่จำเป็นต้องสร้างภาพ
และไม่ว่าใครจะสาปแช่ง ก่นด่า เหยียดหยาม ดูถูกประณาม ถ้าฉันมั่นใจว่าสิ่งที่ฉันทำ พระธรรมวินัยได้ประโยชน์ คนทั้งแผ่นดินได้ประโยชน์ ชาติ ศาสนา องค์พระมหากษัตริย์มั่นคง ยั่งยืน ต่อให้ป่นกระดูกฉันจนเป็นผุยผง ฉันก็จะไม่หยุด
เรื่องสร้างภาพ สำหรับฉันไม่ได้อยู่ในสมอง
ฉันไม่เหมือนพวกอลัชชีทั้งหลายที่วันๆ เอาแต่นั่งสร้างภาพให้ชาวบ้านเขาดูว่ากูดี แต่จริงๆ แล้วกูอัปรีย์ มักมาก ทะยานอยาก สะสม ต้องการเป็นใหญ่ แล้วก็ย่ำยีพระธรรมวินัย
บอกแล้วไง งานนี้ตายเป็นตาย ต้องปฏิรูปสังฆมณฑลให้ได้ ต้องกำจัดอลัชชีให้สิ้นซาก แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ต้องยอม
และขอบอกว่า
ฉันไม่โง่ขนาดเอาชาติภพของตัวเองมาลงทุนทุ่มเทให้กับขยะอาจมในหลุมขี้ อย่างพวกอลัชชีที่กำลังสะสมหรอกนะจ๊ะ จะบอกให้