บทความ
นี่แหละ ตัวตนที่แท้จริงของมหาเถรฃ
๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
หากเป็นญาติ
เป็นศิษย์
เป็นผู้เคยรับใช้ใกล้ชิด
เป็นผู้มีอุปการคุณ
เป็นผู้เคยอุปถัมภ์ กันมาก่อน
เป็นผู้คุ้นเคย สนิทสนม
เป็นผู้บริจาคทรัพย์สินให้ก
มหาเถร ท่านก็จักมีเมตตา เป็นกรณีพิเศษ
มหาเถร จะไม่สนใจหรอกว่า คนๆ นั้นจะมีความประพฤติ หรือประวัติที่เลวร้าย มาอย่างไร ขอเพียงคนๆ นั้น มั่งมี หน้าตา ฐานะ ทรัพย์สิน อยู่ในวงสังคม และถวายทีละมากๆ บ่อยๆ
ชั่วก็กลายเป็นดี ผิดก็กลายเป็นถูก
ดังตัวอย่าง ธมฺมชโย เป็นต้น
มหาเถรมีพฤติกรรมเช่นนี้แหล
หรือไม่ก็อาศัย ความใกล้ชิด คุ้นเคย เลียแข้ง เลียขา คอยรับใช้ใกล้ชิด
แม้ละเมิดพระธรรมวินัยอย่าง
๑. ฉันทาคติ (ลำเอียงเพราะชอบ)
๒. โทสาคติ (ลำเอียงเพราะชัง)
๓. โมหาคติ (ลำเอียงเพราะหลง, พลาดผิดเพราะเขลา)
๔. ภยาคติ (ลำเอียงเพราะกลัว)
เคยมีคนถามฉันว่า ทำไม่ถึงตระเวนไปร้องทุกข์ก
ทำไมไม่ไปร้องให้มหาเถรจัดก
ฉันตอบเขาว่า หากมหาเถรมีจิตสำนึก รักพระธรรมวินัย และทำหน้าที่อย่างซื่อตรง เที่ยงธรรม คงไม่ปล่อยให้อลัชชีอยู่มาไ
ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่โจร ย่อมเข้าข้างโจร
ที่จริง มหาเถร มีมติออกมาอุ้มอลัชชีอย่างน
เพราะข้อกังขาต่างๆ ที่เกี่ยวกับพระวินิจฉัยพระ
เมื่อมหาเถร ซึ่งเป็นผู้สนองงานสมเด็จพร
ธมฺมชโยไม่ได้ยักยอกที่ดินข
ตามพระวินัยถือว่าขาดจากควา
ทำไมมหาเถรไม่ดำเนินการ
ที่สำนักพุทธและมหาเถรมาอ้า
คนในประเทศนี้มีใครเคยได้ยิ
สำนักพุทธและมหาเถร นำเอาเรื่องของนายสมพร เทพสิทธา และอัยการถอนฟ้องมากล่าวอ้า
มหาเถรทำอะไรบ้าง ที่ธมฺมชโยโดยพระสังฆราชวิน
ทั้งที่ทุกวันนี้ นายธมฺมชโย ก็ยังอวดอุตริอยู่
มหาเถรเคยเข้าไปห้ามปราม ธมฺมชโย ในเรื่องคำสอนที่ผิดเพี้ยนจ
และเคยควบคุม ดูแล พฤติกรรมออกเรี่ยไรไปทั้งปร
มหาเถรเคยได้เรียกตัว ธมฺมชโยหรือสั่งให้ตรวจสอบก
สิ่งเหล่านี้ มหาเถรไม่เคยตอบสังคมได้เลย
ซ้ำร้ายวันนี้ ยังมาแสดงพฤติกรรมอุ้มอลัชช
เห็นทีจะถึงคราวที่มหาเถรต้
พุทธะอิสระ