บทความ
รวมกันเราอยู่ ขี้กู ใครอย่าแตะ
๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
ดูท่ามหาแถ ยอมที่จะกอดขี้ตายไปด้วยกัน
งานนี้ นอกจาก มีลุ้น มีเสียว มีขำ มีฮา และยังมีกังขาขยะแขยงอีกตะหาก
คงจะต้องถึงเวลา แจ้งความกล่าวโทษ ต่อมหาเถรแล้วหละ
เตรียม หาวิธี ไปแก้ต่างกับศาลก็แล้วกัน
พยายามทำความเข้าใจกันหน่อยนะ พี่น้อง
เขาเป็นอุปัชฌาย์กับศิษย์กัน
แถมยังมีการเอื้อเฟื้อเจือจุน ด้วยลาภสักการะ ยศถาบรรดาศักดิ์ กันมาตลอด
คงทำใจลำบาก ที่จะตัดผลประโยชน์ ปากท้องตนเองทิ้ง
เรื่องที่สำนักพุทธ และมหาเถร พยายามแถ ก็คือ
คดีมันจบไปแล้ว ที่ดินก็ได้ส่งคืนวัดแล้ว
บอกให้เอาบุญแล้วกันนะมหาแถ
สมเด็จพระสังฆราช ทรงวินิจฉัยให้ส่งคืนสมบัติทั้งหมด
ซึ่งตามพระวินัย ทรัพย์ แบ่งเป็น ๒ ชนิดคือ
สังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้ และอสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์ที่เคลื่อนที่ไม่ได้
ธมฺมชโย ไม่ได้ยักยอก ที่ดินของวัด ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์
แต่ธมฺมชโย ยักยอกเงินของวัด ๙๓๙ ล้านบาท ซึ่งเป็นสังหาริมทรัพย์ ไปให้คนสนิทออกกว้านซื้อที่ดิน จำนวน ๑,๗๔๗ ไร่ มาเป็นชื่อของตน
ถ้าว่ากันตามวินัย ภิกษุ ลักทรัพย์ที่เคลื่อนที่ได้ แค่ยกขึ้นพ้นพื้น เส้นผมรอดได้ ด้วยมีจิตคิดจะลัก ทรัพย์นั้นเกิน ๕ มาสก ต้องอาบัติปาราชิก
เช่นนี้ ธมฺมชโย เป็นปาราชิก ตั้งแต่โอนเงินให้คนสนิทสำเร็จแล้ว ไม่ใช่ที่ดินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์
การที่สมเด็จพระสังฆราชทรงวินิจฉัยให้คืนสมบัติ ซึ่งก็มีทั้งทรัพย์ที่เป็นสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ อย่ามาแถ
หากแม้สมเด็จพระสังฆราชจะไม่ทรงวินิจฉัย การที่เจ้าอาวาสนำเงินวัดไปซื้อที่ดินมาเป็นชื่อของตน
คนมีปัญญา ใครๆ เขาก็รู้ว่า นี่มันโกง นี่เป็นพฤติกรรมที่ยักยอก ส่วนที่ต้องคืน ก็เพราะเขาจับได้ กลัวติดคุก
หากจับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน คงจะโกงไปมากกว่านี้
อีกทั้งยังทรงมีพระวินิจฉัย เรื่อง อวดอุตริมนุสธรรม ที่เป็นเหตุให้ต้องอาบัติปาราชิก หรือมหาเถร หูหนวกตาบอด ทำเป็นไม่เห็นไม่ได้ยินว่า ธมฺมชโย อวดอ้างคุณวิเศษ ออกเผยแพร่ไปทั่วโลก เช่นกรณีเทพบุตรสตีฟ จ็อบ เป็นต้น
อย่างนี้มัน อ๊วก เอียว อันชัดๆ
ช่างน่าสมเพชนัก
พุทธะอิสระ