ว่าจะไม่เขียน ไม่โพสต์ ไม่พูด ไม่บ่นถึงพฤติกรรมของพวกนักการเมืองขี้ฉ้อ สันดานขี้โกง แล้วเชียวนา
๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
แต่ที่ต้องเขียนก็เพราะเป็นประเด็นที่ถกกันในสังคมมาหลายเวลาถึงกรณีแบ่งปันพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ที่อยู่ในบริเวณเกาะกูดให้กับเขมร
โดยที่รัฐบาลไทย ในสมัยไทยรักไทย ของ ทักษิณ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้งในปี 2544 หลังชนะการเลือกตั้งก็แปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เป็น บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)
ในปี 2544 โดยใช้เวลาขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เพียง 77 วินาที ทั้งที่เคยหาเสียงว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะยกเลิกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่มี พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ (กฎหมายแปรรูปรัฐวิสาหกิจ) แต่พอได้เป็นรัฐบาล ก็ใช้กฎหมายดังกล่าว แปรรูป ปตท.ในปีเดียวกันทันที
หลังจากนั้นก็มีการทำ MOU 2544 เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์กับกัมพูชา เรื่องปิโตรเลียมในพื้นที่ที่อ้างว่าทับซ้อนกัน โดยกำหนดว่า พื้นที่เหนือเส้นละติจูดที่ 11 องศา เป็นพื้นที่ที่ต้องแบ่งเขตแดน ส่วนพื้นที่ใต้เส้นละติจูดที่ 11 องศาจะมาตกลงแบ่งผลประโยชน์กัน
และใน MOU ก็ระบุว่า ทั้งการแบ่งเขตแดน และแบ่งผลประโยชน์จะทำไปพร้อมๆกัน แต่ทั้ง ทักษิณ และฮุนเซ็น ยังตกลงผลประโยชน์ไม่สำเร็จ รัฐบาลทักษิณก็ถูกรัฐประหารไปเสียก่อนในปี 2549
รัฐบาลทั้งพรรคของทักษิณ และรัฐบาลจากการรัฐประหารหลังจากนั้น มีความพยายามจะเจรจากับกัมพูชาเรื่องพื้นที่ทางทะเลที่อ้างสิทธิทับซ้อนกันดังกล่าว แต่ไม่ประสบความสำเร็จตลอดมา
เหล่านี้คือมูลเหตุของเรื่องที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศ ต้องมานั่งวิพากษ์กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งอาจกลายเป็นเหตุ ๑ ใน ๖ ข้อ ที่ทำให้พรรคการเมืองที่มีนายทักษิณเป็นเจ้าของ โดยมีลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคและดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอาจถึงต้องถูกยุบ
เพราะมีพฤติกรรมสนับสนุนต่อข้อตกลงกับเขมรในปี ๒๕๔๔
วันนี้พอแค่นี้ก่อน
วันหน้าจะนำพฤติกรรมของนายกหญิง ลูกสาวของนายทักษิณ ที่ออกมาพูดให้การสนับสนุนต่อนโยบายของนายทักษิณผู้พ่ออย่างไร มาเล่าสู่กันฟังโดยละเอียด
พุทธะอิสระ
——————————————–
ลิงค์จาก : https://www.facebook.com/photo/?fbid=936578305001106&set=a.107732901218988