ไม่รู้ว่า นี่เป็นกรรมของประชาชนหรือว่ากรรมของกรมตำรวจ
๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
เมื่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ดันมาต้องคดีเว็บพนันหลายเว็บ หลายกระทงแล้วออกมาสร้างวิวาทะ โต้ตอบฝ่ายที่กล่าวหา
ต่างฝ่ายต่างออกมามีวาทะกันในหน้าสื่อ พ่นน้ำลายใส่กันไปมา ไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งเช้าเย็น
เมื่อผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทะเลาะกันขนาดนี้ แล้วประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยาก จะไปพึ่งใคร
สุจริตชนอย่างเราๆ จักไปหวังพึ่งพาอาศัยใคร
ยุคนี้มันเกิดอะไรขึ้น หรือเพราะคู่วิวาทะมั่นใจว่า ต่างฝ่ายต่างมีนายผู้มากไปด้วยบารมีปกป้องอยู่ จึงกล้าออกมาพ่นน้ำลายใส่กันต่อหน้าธารกำนัล โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายขององค์กรตำรวจ
หากเจ้าหน้าที่ผู้เป็นโจทก์ มั่นใจว่าตนมีหลักฐานชัดเจน สามารถชี้มูลความผิดของผู้ถูกกล่าวหาได้อย่างแน่นอน
ไม่ว่าตำรวจที่ตกเป็นจำเลยจะขยันออกมาโพทนา สร้างข่าว เพื่อบิดเบือนรูปคดีให้สังคมเข้าใจผิดอย่างไร ยังไงข้อเท็จจริงมันก็คือ ข้อเท็จจริง
ตำรวจผู้เป็นโจทก์ ก็ไม่เห็นต้องไปตอบโต้ ต่อปากต่อคำสร้างวิวาทะกับฝ่ายจำเลยนี่
ยิ่งตอบโต้ ยิ่งถกเถียง ก็ยิ่งทำให้สังคมสับสน และตกเป็นเบี้ยให้ฝ่ายจำเลยที่เขาต้องการจะใช้มวลชน ข่าวสาร และสังคม กดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว
ทำไมคุณตำรวจจึงมองสถานการณ์แบบนี้ไม่ออก นี่มันเวรกรรมของประชาชนหรือเปล่า จึงต้องมานั่งดูผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทะเลาะกันด้วยเรื่องที่มันสามารถพิสูจน์ความถูกต้องกันได้ในชั้นศาล ไม่ใช่การพูดออกข่าว
คิดสิคิด คิดเยอะๆ ประชาชนจะได้มั่นใจว่า ประเทศไทยเรามีตำรวจที่แข็งแรงทางความคิด แข็งแรงทางกาย และแข็งแรงทางยุทธวิธี
จึงอยากฝากบทโศลกที่เขียนเอาไว้เมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้วว่า
ลูกรัก
“เพชรแท้ ไม่กลัวการเจียระไน
ทองแท้ ไม่กลัวการเผาไฟ
เหล็กแท้ ไม่กลัวการทุบตี
คนดีแท้ๆ ไม่กลัวการพิสูจน์ทราบ”
เคยได้ยินกันบ้างไหมในคำที่ว่า
ใช้ความสงบ สยบความวุ่นวาย
ใช้ความเยือกเย็น ชนะความร้อนรุ่ม
ใช้ความสุจริต กำราบความฉ้อฉล
ใช้ความจริง ชนะความเท็จ
เจริญปัญญากันบ้างสิจ๊ะ
พุทธะอิสระ
——————————————–