กิจกรรมบูชาองค์พระโพธิสัตว์และไหว้เทวดาฟ้าดินในเทศกาลตรุษจีน จะไม่สำเร็จเลยหากไม่ได้ท่านทั้งหลายช่วยกันจัดงาน

0
49

กิจกรรมบูชาองค์พระโพธิสัตว์และไหว้เทวดาฟ้าดินในเทศกาลตรุษจีน จะไม่สำเร็จเลยหากไม่ได้ท่านทั้งหลายช่วยกันจัดงาน
๓๐ มกราคม ๒๕๖๖

ขออนุโมทนา ขอขอบใจลูกหลานทุกคน

โดยเฉพาะคุณพระ คุณเณรของอาวาสวัดอ้อน้อยที่ได้อนุเคราะห์ สงเคราะห์ดูแลช่วยเหลือกันจัดให้เกิดกิจกรรมอันวิเศษ ศักดิ์สิทธิ์ ในเทศกาลตรุษจีนนี้ให้เกิดขึ้นตลอด ๑๐ วัน

รวมทั้งคณะศรัทธา ลูกหลานชาวครอบครัวธรรมอิสระทุกคน ที่ร่วมด้วยช่วยกันปฏิบัติงานจนลุล่วงสำเร็จ

บูชา จะปูชะนียานัง การบูชาบุคคลที่ควรบูชา นี้เป็นมงคลอันสูงสุด

อย่างน้อยองค์พระโพธิสัตว์และเทพยดาฟ้าดิน ก็มีศีล มีธรรม มีความละอายชั่ว เกรงกลัวบาป

การกราบ การไหว้ผู้มีศีล มีคุณธรรม จึงชื่อว่าเป็นมงคล แต่ก็ไม่ใช้จะเอาแต่ไหว้ โดยไม่คิดจะลงมือปฏิบัติ ทุกสิ่งที่คิด ทุกคำที่พูด จักสำเร็จประโยชน์ได้ก็ต้องลงมือกระทำ

ตามกฎแห่งกรรมที่บุคคลทำกรรมเช่นไร ก็จักต้องได้รับผลเช่นนั้น

การกราบ การไหว้ ต่อท่านผู้มีศีล มีธรรม ชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้มีเดช มีศักดา มีอานุภาพ เมื่อเรายังมีศีลไม่แข็งแรง ยังมีธรรมที่อ่อนแอ ยังไม่สมบูรณ์ในคุณสมบัติจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต

และหากต้องการให้กิจกรรมการงาน ความปรารถนาของตนสำเร็จประโยชน์อย่างราบรื่น โปร่งเบาสบาย ก็ต้องอาศัยเครื่องช่วย เครื่องพยุง

ดุจดังบุคคลต้องการเดินทางไกล ให้ถึงปลายทางอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ก็ต้องอาศัยยานพาหนะโดยสารนำพาไปส่ง ขึ้นอยู่กับว่า เราจักเลือกยานพาหนะชนิดใด และมั่นใจว่าปลอดภัย ได้มากน้อยเพียงใด

แต่ก็มิใช่ว่า ยาพาหนะนั้นจักกระทำให้เราสำเร็จประโยชน์ในเสียทุกอย่าง

เรายังต้องอิงอาศัยหนึ่งหัวของเราคิด สองเท้าเราก้าวเดิน สองมือลงทำ หนึ่งใจเรามุ่งมั่น ด้วยความศรัทธา มุมานะ บากบั่น

เช่นนี้จึงชื่อว่า เป็นผู้มีคุณธรรม เครื่องให้สำเร็จ

อิทธิบาททั้ง ๔

ไม่ว่าจะเป็นใคร อายุและวันเท่าใด อยู่ในสถานะไหนๆ ก็มิอาจปฏิเสธเครื่องพึ่งพาอาศัยจากภายนอกได้

เช่น อยากมีชีวิตก็ต้องพึ่งลมหายใจ

อยากให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ ก็ต้องกินอาหารและน้ำ

อยากให้โรคภัย ไข้เจ็บลดน้อย ก็ต้องออกกำลังกาย บริหารจัดการตนเอง

อยากพ้นจากความหนาวเหน็บ ก็ต้องนุ่งห่มผ้า

อยากทำการงาน อาชีพก็ต้องอาศัยอุปกรณ์ สิ่งของ เครื่องใช้

อยากพ้นจากเหลือบ ยุง ริ้น ไร ก็ต้องอาศัย เสื้อผ้านุ่งห่ม

อยากมีกิน มีใช้ ก็ต้องอาศัยบุคคล และทรัพยากรต่างๆ

แม้ในเวลาขับถ่าย ก็ต้องอาศัยน้ำ และกระดาษชำระ

เวลาเจ็บป่วยก็ต้องอาศัยยา และหมอ

อยากเรียนรู้ ศึกษา ก็ต้องอาศัย พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ อบรมสั่งสอน

อยากมีวิชาความสามารถ ก็ต้องขวนขวายฝึกฝน แสวงหา ค้นคว้า จากท่านผู้รู้ตำรับตำรา

เช่นนี้แหละ จึงกล่าวได้ว่า

“การมีชีวิต คือการพึ่งพาอิงแอบ อาศัย”

ด้วยเหตุที่ชีวิตนี้มันต้องพึ่งพาอิงแอบอาศัยผู้อื่น สิ่งอื่นๆ อยู่อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา จนกลายเป็นภาระไปเบียดเบียนต่อผู้อื่น สิ่งอื่น มากจนเกินไป

พระบรมศาสดาจึงทรงสอนให้พึ่งพาอาศัยตนเอง ให้มากที่สุด จักได้ไม่ไปเป็นภาระ ไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่นมากจนเกินไป มันจะหมุ่นวนกันอยู่เช่นนี้ ไม่จบ ไม่สิ้น

และหากต้องการทำตนเองให้มันจบสิ้น หลุดพ้นจากวงเวียนแห่งกรรมนี้ จึงต้องพยายามทำตนเองให้แข็งแรง

สร้างความแข็งแกร่งให้แก่ตนเอง ทั้งภายในและภายนอก จนไม่ไปเพิ่มภาระ ไม่ไปเบียดเบียนแก่ผู้อื่น สิ่งอื่น

และเมื่อเรากลายเป็นผู้แข็งแรง แข็งแกร่ง อย่างชาญฉลาดเช่นนี้แล้ว เราก็จักกลายเป็นผู้ช่วยเหลือ ผู้บรรเทา ผู้ทำให้รอดของสิ่งอื่นๆ และคนอื่นได้

นั้นก็เพราะ เราแข็งแรง แข็งแกร่งทั้งภายในและภายนอกแล้ว

แล้วท่านทั้งหลายเดินมาถึงจุดนี้ ทำได้เช่นนี้ กันแล้วหรือยัง ?

เช่นนั้นในระหว่างที่ฝึกหัก ปฏิบัติ เรียนรู้ กว่าจะแข็งแรง แข็งแกร่งทั้งภายในและภายนอก

คงจักต้องมีมโนอธิษฐาน ปณิธานไว้ว่า

เราต้องแข็งแรง เราต้องเข้มแข็ง แกร่งกล้าให้ได้ในวันหนึ่ง

สรุป การกราบ การไหว้ การบูชา ไม่ใช้เรื่องผิด ไม่ใช้เป็นความเลวร้าย แต่เป็นเรื่องของผู้ที่ยังไม่แข็งแรงต่างหากเล่า

เข้าใจมั้ยจ๊ะ

พุทธะอิสระ

——————————————–

ลิ้งค์จาก : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid023CYEvon7efUKau7dVzZnKrPAtAdYZxwVPxfLYoAPKhXmYzcYg4Aru8nRqWHaLREkl

ภาพประกอบ : https://www.facebook.com/media/set/?vanity=100067434743758&set=a.513950987529388
ภาพประกอบ : https://www.facebook.com/media/set/?vanity=100067434743758&set=a.519270316997455