ถามมา ตอบไป
๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๔
ถาม:
ข่าวพระสุนิตร แห่งสำนักสงฆ์ซำป่าหันแสดงการกล่าวอ้างว่าตนรู้การละสังขารของโยมอุปัฏฐากที่เป็นลูกสาวของพระพุทธเจ้า หลังจากมีข่าวโด่งดัง แล้วมีการสอบจากพระผู้ปกครอง
พระสุนิตรถึงขนาดกล่าวอ้างว่า พระพุทธเจ้าโทรมาคุย ตามมาด้วยเรื่องพิสดารพันลึกมากมาย
ถามท่านว่า ท่านมองกรณีนี้อย่างไร ?
ตอบ:
กรณีนี้ต้องมองให้รอบ มองให้ลึก มองให้ชัด เช่นกรณีพระสุนิตรปฏิบัติแบบงูๆ ปลาๆ โดยไม่ศึกษาพระพุทธธรรมให้แจ่มชัด จึงมีแต่ศรัทธา แต่ขาดสติปัญญา
ขออธิบายในมุมของผู้ที่เคยปฏิบัติในด้านสมถะ จิตตานุภาพ เมื่อสมัยบวชเข้ามาใหม่ๆ ทั้งยังได้เคยผ่านประสบการณ์ในเรื่องฝึกจิต จนถึงความสงบอันลุ่มลึก จึงทำให้รู้ว่าอุปาทานขันธ์ มันมักจะเกิดขึ้นแก่ผู้ฝึกสมาธิโดยที่ไม่ยอมทิ้งอัตตา
นอกจากอัตตาตัวตนกูจะละไม่ได้ ทิ้งไม่ได้แล้ว สมาธิระดับองค์ฌานยังทำให้อัตตาตัวกูยิ่งใหญ่ จนคนใต้หล้าล้วนเล็กไปทั้งหมด
อารมณ์แบบนี้แหละ ที่องค์พระบรมศาสดาทรงชี้ว่า มันเป็นความวิปริต วิปลาส ผิดธรรมผิดวินัย
เช่น
เห็นว่างาม ในของที่ไม่งาม
เห็นว่าเที่ยงยั่งยืน ในของที่ไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน
เห็นว่ามีตัวตน ในของที่ไม่มีตัวตน
เห็นว่าสุข ทั้งที่ชีวิตนี้มีแต่ทุกข์ เป็นสมบัติในทุกตัวสัตว์
ความวิปริต วิปลาสดังกล่าว มันจะทำให้ผู้ปฏิบัติมีอากัปกิริยา คำพูดคำจาดังที่ท่านทั้งหลายได้เห็นในตัวของพระสุนิตร และศิษย์ของเขา
เมื่อพระสุนิตรกลายเป็นคนวิปลาสไปเสียแล้ว ก็ไม่ต้องไปทวงความถามหาความถูกต้องชอบด้วยธรรม
ส่วนที่จะวิปลาสมากหรือน้อย มันก็ขึ้นอยู่กับว่า ท่านจะวางตัวกูได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร
และหากจะถามพุทธะอิสระว่าจะแก้ความวิปลาสเหล่านั้นได้อย่างไร
พุทธะอิสระผู้มีสติปัญญาอันน้อยนิด ทั้งยังไม่เคยไปเป็นศิษย์ของครูอาจารย์ผู้ใด นอกจากจะศึกษาเอาจากคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา และนำเอามาตีความให้เหมาะงามสำหรับจริตตัวเอง นั้นคือ เมื่อต้องการทำลายความยึดถือในตัวกู ก็หาเหตุทำลายความยึดถือในตัวกูเสีย
ย้ำว่าวิถีนี้เป็นวิถีเฉพาะตน ที่มันทำให้ทำลายความยึดมั่น ถือมั่นในตัวกูได้ดีชะงัดนัก
วิธีนั้นก็คือ ทำตัวให้เล็ก ทำตัวให้ต่ำ ทำตัวให้อ่อนน้อมถ่อมตน ให้ได้มากที่สุด จนกระทั้งถึงขนาดไปนอนกับซากศพ ที่กำลังเน่าแล้วพิจารณาอสุภ หรือนอนแช่ขี้เพื่อพิจารณาปฏิกูล
ทำอยู่เช่นนี้จนรู้สึกได้ว่า ตัวกูมันไม่มีอะไรให้ต้องยึดถือ อุปทานขันธ์ก็เบาบางลง
หลายคนที่ไม่เข้าใจ อาจจะมองว่า วิธีนี้อาจกลายเป็นความวิปลาสชนิดใหม่เกิดขึ้น
นั้นก็เป็นสิทธิ์ที่คุณจะมอง
จะถูก จะผิด ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ทำ คำที่พูด สูตรที่คิด มันสอดคล้องต่อหลักธรรมวินัยขององค์พระบรมศาสดาหรือไม่
ส่วนความผิดของพระรูปนี้ หากจะมองตามหลักพระธรรมวินัย ก็เข้าข่ายอวดอุตริมนุสธรรม ซึ่งพระผู้ปกครองก็คงต้องตั้งกรรมการสงฆ์สอบ ตามกระบวนการทางพระธรรมวินัยต่อไป
พุทธะอิสระ