บทความ
สารจากใจ ทำไมต้องฟ้อง
๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๘
ชั่วชีวิตฉันระลึกอยู่เสมอว่า สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง ความบริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์ เกิดขึ้นได้เฉพาะตนเอง ผู้อื่นหาทำให้เราบริสุทธิ์ได้ไม่
อีกทั้งยังเขียนบทโศลกเอาไว้เมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้วว่า
ลูกรัก
“ชั่วชีวิตพ่อ มิได้ฝากชีวิตเอาไว้บนฟองน้ำลายที่กระดกบนปลายลิ้นชาวบ้าน”
การที่ฉันต้องฟ้องพวกที่เข้ามาตำหนิติด่า ใส่ร้ายป้ายสี เพราะ
– ฉันอยากจะพิสูจน์ว่า เมื่อถึงยุค คสช.ปกครองบ้านเมือง กฎหมายสามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้จริงหรือไม่
– ฉันต้องการจะชี้ให้สังคมได้เห็นว่า ในยุคนี้คนทำดีต้องได้ดี คนทำชั่วต้องได้รับผลของกรรมชั่วที่ตัวทำ
– ฉันต้องการจะบอกจะเตือนคนที่มีมิจฉาทิฐิให้ได้ฟื้นคืนสติ กลับตัวกลับใจ มาช่วยกันสร้างประโยชน์เพื่อบ้านเมือง สร้างจิตสาธารณะให้เกิดขึ้นแก่ตัวเอง
– และฉันต้องการจะให้บทเรียนอันหนักหน่วงแก่พวกคนชั่วคนพาลสันดานหยาบที่สุดจะเยียวยาแก้ไข เช่นนี้คงจะต้องได้รับโทษทัณฑ์ทั้งแพ่งและอาญา
อันที่จริงการที่พวกปากพล่อยไม่ใช้สติ เข้ามาโพสด่า โพสตำหนิ
สำหรับฉันแล้วมันเป็นเรื่องปกติ เรื่องธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาคือไม่มีใครด่า
หากวันไหนไม่มีใครด่า ฉันว่ามันจะผิดปกติของชีวิตฉัน
ด้วยเพราะสิ่งที่ฉันทำคือการให้ประโยชน์ รักษาป้องกันประโยชน์ เช่นนี้ ย่อมแน่นอนว่าผู้ที่สูญเสียประโยชน์ ไม่ได้ประโยชน์ ย่อมต้องมารุมด่ารุมว่า
แต่เสียงตำหนิติด่าของพวกนี้มันไม่ได้ทำให้ฉันต้องสะดุ้งสะเทือนหวั่นไหวหรอก
และที่ต้องฟ้องก็เพื่อสอนบทเรียนอันล้ำค่าให้แก่พวกวิปริต ไม่รู้ดีรู้ชั่ว ให้ได้มีสติรู้สึกตัวเสียบ้าง
ขอบอกว่ายังจะมีหมายศาลส่งไปให้ถึงบ้านอีกเป็นเข่ง พวกที่ไม่รู้จักแยกแยะดีชั่วจงเตรียมตัวรอรับหมายก็แล้วกัน
สำหรับบทความของผู้ใช้นามว่า อัมรินทร์ รักษ์ชาววัง
อัมรินทร์ รักษ์ชาววัง “ทีว่าคนอื่นเขาซะเสีย ๆ หาย ๆ ว่าสมเด็จท่านก็มากมาย กระทำเยี่ยงคนไร้มายาทต่อสมเด็จท่านก็เคย แต่ไม่เห็นสมเด็จท่านออกมาตอบโต้นายสุวิทย์ใด ๆ เลย ทั้งลูกศิษย์สมเด็จท่านก็ไม่ตอบโต้นายสุวิทย์ด้วย มีแต่นายสุวิทย์นี่แหละที่ว่าคนอื่นไปทั่ว นี่หรือศิษย์ตถาคต ผู้ใฝ่สันติสงบ แถมยังมีลูกไล่อีกมากที่รุมปริภาษพระสงฆ์ ยกอาจารย์ตนเองว่าเด่นว่าดีกว่าพระสงฆ์รูปอื่น ๆ ถามหน่อยสิไม่กลัวบาปหรืออย่างไร พระสงฆ์ไทยที่ดีจริง ๆ จะต้องมีเมตตา พร้อมอโหสิกรรมให้ผู้อื่นทุกกาลและสถานที่ แต่นี่กลับฟ้องร้องท่าเดียว 555555555”
ขอตอบว่า ที่ฉันด่าประจานสมเด็จท่านของคุณไปทั้งหมดนั้นมันเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น
เหตุที่ฉันด่าว่าประจานก็เพราะต้องการให้ฟ้องกลับ จะได้ไปพิสูจน์กันในชั้นศาล
และฉันยินดีให้ทั้งสมเด็จท่านของคุณและลูกศิษย์ สามารถนำเอาคำด่าว่าประจานของฉันไปแจ้งความร้องทุกข์หรือฟ้องร้องต่อศาลได้
เหมือนอย่างกรณีมหาโชว์กับนายเสถียร วิพรหมหา ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อฉันกับกองปราบและเจ้าคณะแขวงบางกะปิไง
ต่อมาฉันจึงฟ้องกลับข้อหาแจ้งความเท็จทันที
ฉันรออยู่นานแล้วนะ ไม่เห็นมีใครมาฟ้องร้องฉันเลย
เรื่องนี้อาจจะมองได้ ๒ กรณี
๑. คือไม่อยากยุ่ง ไม่ถือโทษ มีเมตตา
๒. เพราะไส้เน่า มีแผลอยู่ภายใน ติดโรคร้าย เลยไม่อยากต่อกร
แล้วพวกคุณว่าสมเด็จท่านของคุณและลูกศิษย์ไม่ฟ้องฉัน เพราะเขามีเมตตา ไม่อยากยุ่ง หรือเพราะกลัวความเน่าในของตนจะถูกเปิดเผยล่ะ
แต่ถ้าถามฉัน คงต้องบอกว่าความเป็นจริง กรรมการมหาเถรและสำนักพุทธที่ไปสุมหัวกินสินบนจากวัดธรรมกาย หรือใครจะปฏิเสธว่าไม่จริง
ไม่ใช่ไม่อยากเล่นงานฉัน ไม่งั้นเขาคงไม่สั่งให้เจ้าคณะจังหวัด อำเภอ ตำบล มาสอบฉัน แต่ไม่มีเหตุอันใดให้สอบ
แสดงว่าสมเด็จท่านของคุณและบรรดาลูกศิษย์ลิ่วล้อของธรรมกาย เขาแทบอยากจะให้ฉันตายวันตายพรุ่งไปเสียตั้งแต่วันนี้พรุ่งนี้ด้วยซ้ำ
ไม่งั้นพวกคุณจะไปสร้างเฟสใส่ร้ายด่าว่าฉันอยู่หลายเฟสดอกหรือ
รวมความว่า คนอย่างพวกคุณอยากทำร้ายฉันอยู่แทบทุกวัน
ยิ่งฉันกลายเป็นคู่พิฆาตเจ้าลัทธิธรรมกายและสมเด็จท่านของคุณ ด้วยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องข้อหาเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พวกคุณก็ยิ่งอยากฆ่าฉันกับมือ
เพราะฉะนั้น คนอย่างพวกคุณอย่ามาอ้างความเมตตาเลย
ถ้าพวกคุณมีความเมตตาจริง
ทำไมก่อนที่จะมีการฟ้องร้องคดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
ฉันขอให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอไปเจรจากับเจ้าอาวาสธรรมกาย ว่าให้คืนเงินที่ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนำเงินของสหกรณ์ที่สมาชิกฝากเพื่อกินดอก นำไปให้วัดธรรมกายเป็นพันล้าน มาคืนให้แก่สมาชิกที่เขากำลังเดือดร้อนเถิด
กลับได้รับคำตอบจากเจ้าลัทธิว่า หากอยากได้เงินคืน ให้ไปฟ้องร้องเอาเอง
อย่างนี้หรือที่เขาเรียกว่ามีเมตตา
เงินของคนแก่ปลดเกษียณเขาเอาไปฝากเพื่อกินดอกเบี้ยเป็นก้อนสุดท้ายของชีวิตที่สะสมมา เพื่อใช้ในยามบั้นปลายชีวิต
แต่กลับได้รับคำตอบจากศิษย์เอกสมเด็จท่านของคุณว่า หากอยากได้ ก็ไปฟ้องร้องเอาเอง
แล้วอย่างนี้คุณจะแถไปอย่างไร
เอาเป็นว่า หากอยากพิสูจน์ว่าใครมีเมตตาหรือไม่ ก็ลองด่ามาอีกมากๆ เดี๋ยวรู้ผล
พุทธะอิสระ