มีคนตั้งประเด็นคำถามมาว่า ไหนบอกว่า มีจิตเมตตาให้อภัยเป็นทานขั้นปรมัตถ์ แล้วไอ้ที่เดินสายไปฟ้องนายมาร์ค พิทบูล และพวกทุจริตเงินทอนวัด เมื่อวานนี้จักอธิบายอย่างไร
เวรก้ำ..เวรกรรม ทำไมเราต้องมาเหนื่อยอธิบายกับคนที่ไม่พยายามเข้าใจอะไรกับเขาบ้างเลยด้วยนะ
ทำไมฉันต้องมาถูกคนพวกนี้คอยจ้องจับผิด ทั้งที่หากจะสืบค้นดูแล้วคนพวกนี้ก็มิได้เคยทำประโยชน์ให้กับแผ่นดินนักสักเท่าไหร่ แถมยังพยายามมาจับผิดพุทธะอิสระมาถึง ๔ ปีแล้ว ก็ยังไม่เห็นทำอะไรต่อพุทธะอิสระได้ซักที
แต่ก็ดูว่า คนพวกนี้ช่างขยันที่จะเข้ามาด่า เข้ามาใส่ร้าย เข้ามาดูหมิ่นเหยียดหยามไม่เว้นแต่ละวัน
เมื่อพุทธะอิสระเห็นว่าถึงเวลาอันสมควร ที่จะให้บทเรียนอันสำคัญแก่คนพวกนี้ เพื่อให้หลาบจำ
และเมื่อพุทธะอิสระเห็นว่าเขาผู้นั้นได้เข้าใจในสิ่งที่เราทำ และรู้จักสำนึกผิด เราก็ควรมีจิตเมตตา ให้อภัย เพราะเขาไม่ได้เลวร้ายอะไร เขาล่วงเกินเฉพาะลำพังตัวเรา
แต่สำหรับในกรณีผู้ที่จาบจ้วงพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระมหาโพธิสัตว์ รวมทั้งผู้ย่ำยีพระธรรมวินัย ย่ำยีชาติ ย่ำยีสถาบัน
หากพุทธะอิสระ เอาแต่รักตัวกลัวตาย หดหัวเป็นเต่าเอาตัวรอด ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกตัวเองว่าเป็นพุทธสาวกเป็นลูกผู้ชายไทยได้อย่างไร
อีกทั้งหากนิ่งเฉย เมื่อเห็นชาติและสถาบันมีภัย
พุทธะอิสระก็ขอตายเสียดีกว่า
ในกรณีเหล่านี้ พุทธะอิสระไม่เคยคิดที่จะให้อภัย
และขอฝากบอกบรรดากองเชียร์ของเจ้าคุณเบอร์ลินทั้งหลายที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรม ของเจ้าคุณเบอร์ลินที่ยอมเข้ามาขอขมาต่อพุทธะอิสระว่า ทำให้เสียชื่อเสียงวัดต้นสังกัด และลูกพี่
เพราะพฤติกรรมของเจ้าคุณเบอร์ลิน ที่แสดงออกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งออกมายอมรับความผิดที่ตนกระทำก็ดูงดงามสมตามพระธรรมวินัย
แต่บรรดากองเชียร์ทั้งหลายกลับออกมาตำหนิ วิพากษ์วิจารณ์เจ้าคุณเบอร์ลินและพุทธะอิสระอย่างเสียๆ หายๆ
พุทธะอิสระก็อยากจะตั้งคำถามกลับไปเหมือนกันว่า ทีตอนเจ้าคุณเบอร์ลินกระทำผิด ทำไมคนพวกนี้ไม่ออกมาทักท้วงห้ามปราม
แต่พอเจ้าคุณเบอร์ลินถูกแจ้งความ ถูกเล่นงาน จนอัยการมีหนังสือสั่งฟ้อง
พวกกองเชียร์พวกนี้ ไม่เห็นมีใครเสนอหน้า ออกมาช่วยเจ้าคุณเบอร์ลินเลยซักคน
เมื่อเจ้าคุณเบอร์ลินมีโอกาสที่จะรอดพ้นคุก กลับออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างเสียๆ หายๆ แสดงว่ากองเชียร์พวกนี้ แค่เอามัน เฉยๆ
ส่วนใครจะถูก จะผิด คนพวกนี้คงไม่มีสติปัญญาแยกแยะ ขอเพียงกูสะใจ พึงพอใจ ประมาณว่า สบายใจ ถ้าได้หมด
เช่นนี้แหละกระมัง โบราณท่านถึงได้ว่า คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล ยังไงล่ะ
พุทธะอิสระ