ธรรมใดเกิดแต่เหตุ หากจักดับธรรมนั้น ก็ต้องดับที่เหตุ

0
223

หลังจากที่พุทธะอิสระได้ตอบคำถามท่านผู้พิพากษา ที่ถามมาในกรณีความขัดแย้งของตุลาการศาลกับประชาชนคนรักดอยสุเทพ

ก็มีบรรดาท่านผู้สนใจเข้ามาอ่าน เข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นตามหลักเหตุผล ในมุมมองของๆ ตนอย่างน่าชื่นชม

ถือเป็นการถกเถียงกันด้วยหลักการและเหตุผล

โดยไม่ใช้อารมณ์ทำให้เกิดความระคายเคืองซึ่งกันและกัน

เช่นนี้ถือว่า ผู้ที่เข้ามาติดตามเฟชนี้ได้ปัญญา

ปัญญาในการรับข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น เข้าใจในอารยธรรมของมนุษย์ชาติที่ควรจักอยู่ร่วมกัน โดยใช้หลักเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์กันมากขึ้น ช่างน่าชื่นชม น่าเอ็นดู ยิ่งนัก

และหนึ่งในหลายคอมเมนต์นั้น ได้กล่าวเตือนพุทธะอิสระด้วยความห่วงใยว่า


Praathit Konthai หลวงปู่ครับ อยู่ห่างๆดีกว่าครับ

กราบนมัสการด้วยความเคารพครับ เพราะเบื้องหลังลึกๆไม่มีใครพูดชัดๆพูดเริ่องจริงๆครับ


ไม่ใช่พุทธะอิสระอยากจะเข้าไปยุ่ง คุณจะเห็นว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งหลายเดือนแล้ว พุทธะอิสระก็ได้แต่รับรู้ เฝ้าดู อยู่ห่างๆ โดยเอาใจช่วยทั้งสองฝ่าย เพราะต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลด้วยกันทั้งนั้น

แต่เมื่อมีท่านผู้พิพากษาถามมา พุทธะอิสระก็ต้องตอบตามหน้าที่และตอบในมุมมองของพุทธะอิสระ

และถ้าหากจักใช้หลักพระพุทธธรรมที่ทรงตรัสสอน ในเรื่อง หลักการเหตุและผล ก็ต้องไปสาวหาเหตุว่า

ใครเป็นผู้ขอให้สร้างบ้านพักตุลาการเหล่านี้

ใครเป็นผู้เห็นชอบและอนุมัติงบให้สร้าง

ใครเป็นผู้เห็นชอบและอนุมัติแบบก่อสร้าง

ใครเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างที่เข้าไปทำลายทรัพยากรป่าไม้

และใครเป็นผู้ได้รับประโยชน์ จากโครงการเหล่านี้

ถ้าหากสังคมจะถามหาผู้รับผิดชอบ บุคคลหรือกลุ่มบุคคล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว คงจักมิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้

เหล่านี้คือวิธีคิดและมุมมองของ พุทธะอิสระ

พุทธะอิสระ