ลงพื้นที่ ทำดีเพื่อพ่อกันอีกที ตอนที่ ๑๒

0
168

บทความ

ลงพื้นที่ ทำดีเพื่อพ่อกันอีกที ตอนที่ ๑๒

๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๘

 

 

วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ หยุดพักหนึ่งวัน เลยให้เจ้าแจ้ กับ เจ้าเขม เจ้าเมฆ ไปหาซื้อต้นไม้ ส่วนฉัน ก็นั่งจารพระ เขียนหนังสือ ปลูกต้นไม้ไปตามเรื่องที่ไม่ปล่อยเวลาว่างไปให้เปล่าประโยชน์
 
เวลาผ่านไปสัก ๒ ชั่วโมง นั่งอยู่นานๆ รู้สึกเมื่อย เลยเดินออกไปดูต้นไม้ เห็นเจ้าวารินกางร่มมาหา ฉันจึงถามว่า ไอ้พวกนั้นมันไปถึงไหนแล้ว จะกลับมาหรือยัง
 
เจ้าวารินบอกว่า ยังครับ พี่แจ้เพิ่งจะโทรมาบอกว่า เขาไปซื้อของในห้างโลตัสเชียงใหม่ แต่ออกมาขึ้นรถไม่ถูก ไม่รู้รถออกไปอยู่ประตูทางไหน
 
ฉันฟังเจ้าวารินเล่า จึงถามว่า ตำรวจหลงอยู่ในห้างเหรอวะ มันมีตำรวจพันธุ์นี้เหลืออยู่ในโลกอีกหรือ
 
ฉันจึงถามเจ้าวารินไปว่า แจ้มันเข้าไปในห้างทำไม ได้รับคำตอบว่า ไปซื้อซิมโทรศัพท์
 
ฉันจึงถามว่า แล้วทำไมไม่โทรเรียกหาคนขับรถ
 
เจ้าวารินบอกว่า พี่แจ้โทรแล้ว แต่ออกไปผิดประตู เลยไม่เห็นคนขับ
 
เจ้าวารินเล่าต่อว่า ผมบอกให้พี่แจ้เหมารถกลับที่พักมาเลย หากไม่เจอรถ
 
ได้ยินเจ้าวารินเล่าต่อว่า เจ้าแจ้พูดออกมาว่า พูดไม่คิด จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่ารถเล่า ทั้งตัวมีแค่ ๒๐๐ บาท ไปไม่ถึงที่พัก
 
ฉันเลยตัดบทว่า จะไปยากอะไรวะ มึงก็เดินไปหาตำรวจ บอกให้ตำรวจพาตำรวจมาส่งบ้านที เพราะตำรวจหลงทาง ออกจากห้างผิดประตู เลยไม่เจอรถ
 
ฉันพูดแล้วนึกสมเพชเจ้าแจ้ และก็เวทนาตัวเองว่าทำไมต้องมาเจอกับคนพรรค์นี้วะ นี่ขนาดตำรวจนะ โอ้… แม่เจ้า ทำไมถึงได้ซวยขนาดนี้
 
หรือมันจะเจริญรอยตามลูกพี่มัน
 
ฉันว่าพวกคุณไม่มีใครซวยเท่าฉัน ที่รู้สึกปวดเยี่ยว เลยใช้ให้ตำรวจไปถามชาวบ้านว่าห้องน้ำไปทางไหน
 
คุณรู้ไหม ผู้หมวดกุดมันหันมารับคำว่า ได้ครับ ว่าแล้วก็เดินอ้าวๆ ตรงไปหาชายคนหนึ่ง ซึ่งกำลังใช้มือคลำผนังปูนอยู่
 
และแล้วหมวดกุด ก็ส่งเสียงอันนุ่มนวลถามไปว่า พี่ครับ ห้องน้ำไปทางไหน
 
ฉันได้ยินเสียงตอบกลับมาว่า ตรงไปนะครับ แล้วเลี้ยวขวา และเลี้ยวซ้าย ก็จะถึงห้องน้ำชายครับ
 
ชายผู้นั้นตอบ แล้วจึงใช้มือคลำคลำข้างฝาเดินต่อไป
 
ฉันเห็นแล้ว จึงถอนหายใจว่า เฮ้ออ… ลูกน้องกู ดันไปถามทางไปห้องน้ำกับคนตาบอด จึงบอกไปว่า พวกมึงไปหาปี๊บมาคลุมหัวกูที กูอายว่ะ
 
พอเจ้าแจ้กลับมาแล้ว มันพยายามหลบหน้าฉัน ไม่ยอมให้พบหน้าตรงๆ จนถึงรุ่งขึ้นเช้า
 
เวลา ๙ โมงเช้าของวันศุกร์ที่ ๑๘ ฉันมีนัดกับ พันเอกอัครวัฒน์ วุฒิเดชโชติโภคิน และชาวบ้านตำบลกื้ดช้าง จะไปตรวจงานดูความคืบหน้าในการขุดลอกสระหนองป่าช้า และสระหนองบัว บ้านเมืองกื้ด ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง ซึ่งเป็นสระน้ำเพื่อการเกษตร
พอมาถึงหน้าบ้านเสธ ฉันสั่งให้รถเลี้ยวเข้าบ้านผู้พันเพื่อขออาศัยเขาห้องน้ำ ผู้พันยืนรอรับอยู่
 
หลังจากเสร็จภารกิจ ฉันขึ้นรถเพื่อออกเดินทางไปหมู่บ้านเมืองกื้ด ขณะที่รถแล่นออกจากบ้านผู้พันอัครวัฒน์ เห็นเจ้าแจ้สวมหมวก ใส่แว่นตาดำ มายืนโบกรถอยู่กลางถนน ดูกิริยา เงอะๆ เงิ่นๆ เห็นแล้วขำพูดกับคนในรถว่า มันช่างกล้านะ เดี๋ยวรถก็เอาไปกินเสียหรอก
 
รถแล่นมาได้ชั่วโมงเศษๆ จึงถึงที่ขุดสระ
 
เห็นรถจอดเฉยๆ จึงได้ถามคนขับรถ จึงได้รู้ว่ารถมีปัญหาต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำมัน เพราะไม่มีแรงแม้แต่จะเดิน
 
ฉันจึงถามว่า แจ้งศูนย์ไปแล้วหรือยัง คนขับตอบว่าแจ้งแล้ว กำลังเดินทางเอาไส้กรองมาเปลี่ยน
 
เห็นงานขุดสระคืบหน้าไปได้มาก หลังจากขุดรอกขี้เลนออกเมตรครึ่ง จนถึงชั้นหิน ดินดาน น้ำใต้ดินก็ซึมมาอย่างมากมาย
 
จากสระน้ำแห้ง กลายเป็นสระน้ำนอง ยังเหลืออีกด้านที่ยังมิได้ขุดรอก พอดีรถมีปัญหา คิดว่าอีกหนึ่งวันคงจะแล้วเสร็จ
 
ขณะนั้น เวลาล่วงเลยมาถึง ๑๑ โมงเศษ เจ้าวารินและผู้ติดตาม เตรียมอาหารถวายฉันบริเวณเนินซึ่งเป็นนาใกล้ป่าช้า
 
ฉันจึงสั่งให้นำข้าวกล่องที่เตรียมมา แจกจ่ายให้ตำรวจและทหารที่ตามมา พร้อมนายก อบต. และกำนันได้ทานกัน
 
ต่อมา ลูกน้องท่านนายก อบต.พิเชษฐ์ กันทรส จึงนำข้าวกล่องมาสบทบแจกจ่ายให้กินกันอย่างทั่วถึง
 
ฉันเสร็จ แผ่เมตตาให้พร ออกเดินทางไปวัดเมืองกื้ด เพื่อถวายสักการะต้นศรีมหาโพธิ์ ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงปลูกเอาไว้เมื่อ ๔๐๐ กว่าปีที่แล้ว
 

ขณะที่ทรงเดินทัพมาตั้งอยู่ที่เมืองกื้ด
 
หลังจากกราบต้นศรีมหาโพธิ์แล้ว ฉันรีบขึ้นรถ โดยมีท่านผู้พันอัครวัฒน์ วุฒิเดชโชติโภคิน และผู้กำกับอรรจน์ มณีตระกูลทอง สภ.แม่แตง และคณะตำรวจทหารมานำทาง มาถึงตำบลทุ่งหลวง สระบัวทุ่งหลวง เพื่อสำรวจว่าจะทำการขุดลอกได้อย่างไร
 
รถแล่นผ่านวัดทุ่งหลวง ทำให้คิดถึงความหลังครั้งเก่า เมื่อประมาณปี ๒๕๒๕ – ๒๕๒๖ เคยเดินธุดงค์ผ่านมา ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมในงานพิธีวางศิลาฤกษ์ เมืองพระนิพพาน ของครูบาธรรมชัย พร้อมคณะศิษย์ ๕ รูป มีภิกษุที่เป็นศิษย์ของหลวงพ่อจ้อยแห่งวัดดอนสัก สุราษฎร์ธานี ๒ รูป ซึ่ง ๑ ใน ๒ รูปนั้น ปัจจุบันได้เป็นเจ้าอาวาสวัดดอนสัก หลังจากหลวงพ่อจ้อยมรณภาพลง
 
หลังจากเสร็จงานวางศิลาฤกษ์เมืองพระนิพพานแล้ว ฉันจึงออกเดินทางธุดงค์ต่อไปจนถึงถ้ำเชียงดาว และถ้ำผาป่อง ถ้ำปากเปียง ตามลำดับ
 
วันนี้ ได้มีโอกาสแวะเวียนมาถึงถิ่นที่เคยกินนอน เลยทำให้นึกถึงอดีตที่ผ่านพ้น ได้พานพบทั้งคนและสถานที่
 
เมื่อลงพื้นที่สำรวจดูลู่ทางที่จะขุดลอกแล้ว จึงได้ไปประชุมชาวบ้านโดยมีท่านนายกเทศมนตรีตำบลแม่แตง สังวรณ์ จเรวรรณ์ คอยต้อนรับ
 
ประชุมชาวบ้าน ได้พูดคุยถึงวัตถุประสงค์ แล้วแจกล๊อคเกตสมเด็จพระสังฆราชและในหลวง เสร็จแล้วจึงได้เดินทางกลับที่พัก
 
พอตกกลางคืน ฉันนั่งเขียนหนังสือหน้าห้องนอนของพวกเจ้าแจ้ เจ้าวาริน
 
๒ ทุ่มเศษๆ เห็นเจ้าวารินแต่งตัวเต็มยศ เดินออกมาจากห้อง พอมันเห็นฉัน มันทำเป็นไอค๊อกแค๊ก แล้วเดินออกจากที่พักไป
 
ฉันนึกในใจว่า คำ่มืดดึกดื่น อากาศก็เย็น เดินทางมาทั้งวันเหน็ดเหนื่อย มันจะออกไปไหน
 
แต่ก็ไม่ถาม พอฉันขึ้นนอน ได้ยินเสียงรถแล่นออกไปจากที่พัก
 
ตีสองเศษๆ ได้ยินเสียงหมาเห่า รถแล่นเข้ามาจอด ฉันนึกว่าไอ้พวกนี้มันช่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกันบ้างหรือยังไง
 
มารู้ทีหลังว่า เจ้าแจ้กับพรรคพวก เห็นฉันนั่งอยู่หน้าห้องนอน มันเลยออกไปทางหน้าต่าง
 
พอฉันถาม มันอ้างว่าไปคุมน้องๆ ดูแลความเรียบร้อย
 
ฉันเลยถามว่า ไหนมึงบอกว่าทั้งตัวมีเงินแค่สองร้อยไง
 
ได้รับคำตอบจากเจ้าแจ้ว่า แชร์กันออก ไม่พอเลยยืมน้องๆ มันก่อน เดี๋ยวปีหน้าค่อยจ่าย
 
ฉันฟังแล้วจึงพูดว่า กูรู้แล้วว่าทำไมพวกมึงถึงได้ยากจน
 
เพราะพวกมึงมันอยากเกินกำลังความสามารถนี่เอง…
 


พุทธะอิสระ

 


________________________________________________

 

ลงพื้นที่ ทำดีเพื่อพ่อกันอีกที ตอนที่ ๑๐
https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/10153754464568446

ลงพื้นที่ ทำดีเพื่อพ่อกันอีกที ครั้งที่ ๑๑
https://www.facebook.com/buddha.isara/timeline/story…