บทความ
สืบเนื่องเรื่องจากลงพื้นที่ทำดีเพื่อพ่อ
๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
นิรเนม ไร้นาม: นมัสการหลวงปู่ผมเป็นfcหลวงปู่ติดตามอ่านแทบทุกโพสต์ ท่านรู้หรือยังเรื่องอุทยานราชภักดี์มีทหารและพลเรือนโกงกินกันมโหฬารถึงขนาดนายพลในรัฐบาลบอกว่าตามเงินคืนได้ส่วนนึงแล้วเอาไปบริจาค ในฐานะพญาราชสีห์ผู้องอาจ ผู้รังเกียจคนโกงไม่เห็นท่านแตะเรื่องนี้เลย คนเหล่านี้แอบอ้างเบื้องสูง องกรเก็บขยะแผ่นดินไปไหน(เงียบ) ท่านอย่าเงียบสิหลวงปู่ มีนักโทษตายในคุกพิเศษไม่มีการชันสูจน์ ท่านคิดอ่าไร เสี่ยอู๊ดตายท่านยังวิเคราะห์ ระเบิดราชประสงค์ ได้วันเดียว ท่านบอกว่า”ฤทธ์เดชไอ้ชาติชั่ว” เรื่องนี้เรื่องใหญ่สื่อหลักเกาะติดอยู่ ออกมาtake action เหมือนทุกเรื่องสีครับ มันคือการโกงชาตินะครับ แถมแอบอ้างเบื้องสูง ท่านอย่าสองมาตรฐานสิ หรือพญาราชสีห์กลัว. ออกมาเลย ผมและบรรดาfcรออ่านอยู่
Chon Trakoon: หลวงพี่
ทหารมันงาบหัวคิวอุทยานราชภักดิ์ ทำไงดีคะ
________________________________
กลับมาจากลงพื้นที่ทำดีเพื่อพ่อครั้งนี้ มีการบ้านที่ตกค้างต้องเฉลยอยู่หลายเรื่อง
เมื่อวานเรื่องคนเขามาด่า
วันนี้เรื่องแก้ข้อสงสัยว่าทำไมไม่เขียน
เห็นคุณผู้ใช้นามว่า นิรเนม ไร้นาม และคุณ Chon Trakoon สอบถามฉันมาว่า ทำไมไม่เขียนถึงคดีกินหัวคิวการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์
ขอชี้แจงว่า ๒ อาทิตย์ที่ผ่านมาฉันมิได้อยู่ประจำเป็นที่ ต้องตะลอนๆ ไปตามจังหวัดต่างๆ สถานที่ๆ ฉันไปก็ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีเครื่องปริ๊นเตอร์ ไม่มีเครื่องถ่ายเอกสาร ไม่มีเวลาว่างที่จะติดตามข้อมูลข่าวสาร แม้จะได้ยินข่าวอยู่บ้างแต่ไม่มีข้อมูลชัดเจน จึงไม่รู้ว่าจะเขียนยังไง
อีกทั้งการจะส่งบทความแต่ละครั้ง ฉันต้องสั่งให้เจ้าเฟิร์สขับรถลงเขา ๓๐ กว่ากิโลในบางที่ๆ ไปอยู่เพื่อเดินทางไปส่งเอกสารในร้านค้าที่มีเครื่องส่ง
หลังจากฉันเขียนแล้วให้เจ้าเฟิร์สก็ต้องมาส่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่วัดพิมพ์ แล้วรุ่งขึ้นต้องขับรถไปเอาเอกสารที่พิมพ์แล้วกลับมาให้ฉันตรวจพิสูจน์ข้อความอักษร
เมื่อตรวจแล้วจึงให้เจ้าเฟิร์สขับรถไปส่งเอกสารเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่วัดแก้ไขเสร็จแล้วจึงลงมาให้พวกท่านได้อ่าน
มันยุ่งยากลำบากมากๆ กว่าจะได้บทความมาให้พวกคุณอ่านในแต่ละบทแต่ละวัน นี่ขนาดเป็นข้อมูลที่ฉันประสบพบเจอด้วยตนเองนะ
หากเป็นข่าวสารที่ฉันไม่มีข้อมูลอยู่ในมือ การจะค้นหาข้อมูลก็ต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงไปหาร้านค้าหรือสถานที่ๆ เขามีอินเตอร์เน็ตและมีเครื่องปริ๊นเอกสารหรือหนังสือพิมพ์
ขอสารภาพว่าตั้งแต่ฉันลงพื้นที่ตามชนบท ฉันไม่เคยอ่านหนังสือพิมพ์เลย
รวมความว่าที่ฉันไม่ได้เขียนถึงคดีเรียกเก็บหัวคิวอุทยานราชภักดิ์เพราะไม่มีข้อมูลจริงๆ เลยไม่รู้ว่าจะเขียนอย่างไร
แต่ถ้าจะให้เขียนตามความรู้สึกก็ต้องขอระบายว่า ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นการทุจริตเกิดขึ้นในยุคของรัฐบาล คสช. โดยเฉพาะเกิดขึ้นกับการก่อสร้างสถานที่ๆ เป็นบรมราชานุสาวรีย์ของอดีตบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ที่ปวงชนชาวไทยเคารพบูชา
อีกทั้งยังเป็นสถานที่อันทรงเกียรติประวัติแห่งความเสียสละ กล้าหาญ อดทน และพระปรีชาชาญของอดีตองค์พระมหากษัตริย์ไทย ที่ลูกไทยหลานไทยต้องจดจำระลึกรู้ ซึมซาบถึงคุณงามความดีของล้นเกล้าทุกๆ พระองค์
แต่กลับมีไอ้อีและมันผู้ใด กระทำการอันบังอาจจาบจ้วง ล่วงเกิน ดูหมิ่นเหยียดหยาม องค์พระผู้ให้แม้ชีวิตเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนและแผ่นดิน ดังรูปเคารพที่สถิตสถาพรอยู่ ณ บรมราชานุสาวรีย์ราชภักดิ์
ไอ้อีมันผู้นั้นย่อมไม่ตายดี แม้มีชีวิตอยู่ ชีวิตก็จะมีแต่ความวิบัติทั้งโคตรเหง้าเหล่ากอวงศ์ตระกูล
การสร้างอุทยานราชภักดิ์เป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติที่มีหัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี และเทิดทูนสถาบัน
แม้ฉันเองและลูกหลานชาวธรรมอิสระยังร่วมบริจาคในการสร้างไปเป็นเงินสองแสนสี่พันกว่าบาท
เพราะฉันเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่ากองทัพบกกำลังสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดิน
ฉันจึงไม่ลังเลใจเลยที่จะให้การสนับสนุน แม้จะรู้สึกกังขาอยู่ในใจว่า ทำไมกองทัพบกถึงได้เอาไอ้กะล่อนสิบแปดมงกุฎอย่างหมอหยองมานั่งเป็นที่ปรึกษาประสานงานโครงการ
และแล้วสิ่งที่ฉันกลัวและหวาดหวั่นอยู่ในใจก็กลายเป็นเรื่องจริง
งานนี้ถ้าจะโทษก็ต้องโทษผู้ที่ไม่รู้จักเลือกใช้คนไม่มีประสบการณ์ทางจิตวิญญาณที่เป็นวิถีแห่งสัมมาทิฐิ
แต่กลับไปหลงเชื่อฤทธิ์เดช อภินิหารคำทำนายทายทักตามคำอวดอ้างของหมอหยองและพวก
บอกตรงๆ ว่าฉันเองก็รู้สึกเศร้าใจเหมือนกัน
ประเทศไทยชอบอวดอ้างประกาศโฆษณาว่ามีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ของประเทศกลับหลงใหลงมงายอยู่กับคำทำนายทายทัก ลัทธิมนต์ดำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามต่อพุทธธรรมคำสอน และที่เลวร้ายสุดๆ ก็คือนักบวชที่อยู่ในองค์กรปกครองสงฆ์สูงสุด หลายคนได้ดีมีลาภ ยศ สรรเสริญ มาจากการทำอาชีพทำนายทายทัก ดูดวงต่อชะตา
ทั้งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตำหนิและทรงเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าเดรัจฉานวิชา คือวิชาของผู้ขวางไป เหมือนดังสัตว์เดรัจฉาน หากพูดก็ทรงเรียกว่าเดรัจฉานคาถา คือคำพูดของผู้ขวางไป
แต่นักบวชสงฆ์ไทยระดับเจ้าคณะปกครองและกรรมการมหาเถรบางคนก็อาศัยเดรัจฉานวิชาเพื่อลาภ ยศ สรรเสริญ และเพื่อความอยู่รอดของตน
เมื่อผู้นำทางจิตวิญญาณยังทำตัวมั่วกับวิชาเดรัจฉาน แล้วจะหวังอะไรกับพุทธบริษัทไทย ว่าจะต้องงมงายเชื่อง่ายตามการนำของผู้นำทางจิตวิญญาณ ไม่เว้นแม้แต่นักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และคหบดี เศรษฐี ยาจก ล้วนแล้วแต่ตกอยู่ในวังวนแห่งการทำนายทายทักกันทั้งนั้น
รัฐบาล คสช.และ ผบ.เหล่าทัพทั้งหลาย ควรต้องใช้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์สอนเตือนตัวเอง ว่าอย่าหลงเชื่อคำพูด คำทำนาย คำโฆษณาอวดอ้างคุณวิเศษใดๆ จากใครๆ แม้จากคนในบ้านตน
เพราะถ้าเมื่อใดที่เชื่อโดยไม่ใช้ปัญญา สิ่งที่ได้มาแทนที่จะเป็นความดี สง่างาม จักกลับกลายเป็นความเหลวไหล งมงาย ไร้สาระ ปัญญาอ่อนไป ตัวอย่างการเชื่อหมอหยองและพวก เป็นต้น
เช่นนี้ถือว่า เกียรติประวัติที่สร้างสมมาจะกลายเป็นความเสียหาย ล้มเหลว เหตุเพราะความงมงายโดยแท้
เรียกว่า คบคนพาล พาลพา ไปหาผิด
พุทธะอิสระ