บทความ
แหม แหม พอเจ้าของเคาะกะลา บรรดาสุนัขก็เห่าหอนกัน
๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
พอมหาเถร มีมติปกป้องอลัชชีปาราชิก
เหล่าบรรดา ลูกกระจอก ลิ่วล้อ ต่างออกมากระดิกหู กระดิกหาง ครางหงิงๆ กันเป็นทิวแถวทีเดียวนะ
คงจะนึกซินะว่า กูรอดแล้ว กูชนะแล้ว
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เปิดโอกาสให้ทำดีแก้ตัว มาหลายครั้ง ก็ยังแถกแถ โอบอุ้มอลัชชีปาราชิก ผู้มั่งคั่ง ถ้างั้นก็กอดคอกันตายยกเข่งเถอะ
มติมหาเถรที่ออกมา ทำเหมือนกับไม่สนใจ ว่าหลักธรรมวินัย บัญญัติเอาไว้เช่นไร
มิหนำซ้ำ ยังนำสิ่งที่พระพุทธเจ้า ไม่ได้บัญญัติ มาหักล้างสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ
แถมยัง มาลอยหน้า ลอยตาพูดว่า เรื่องมันจบไปนานแล้ว อัยการถอนฟ้องไปนานแล้ว ไม่ควรจะนำมารื้นฟื้นอีก
ทั้งที่สำนักพุทธ และมหาเถรรู้อยู่เต็มอกว่า การถอนฟ้องบุคลผู้ต้องอาบัติปาราชิก ในทางธรรมวินัย มันทำไม่ได้
จะต้องเข้าสู่กระบวนการ พิสูจน์จนกว่าความจริงจะปรากฏ เพื่อความบริสุทธิ์บริบูรณ์ ของพระธรรมวินัยและสังฆมณฑล เพื่อความสมานสังวาส และอยู่ร่วมกันโดยสามัคคีธรรม
แต่มหาเถร กลับทำนิ่งเฉย ละเลยต่อธรรมเนียมปฏิบัติ ตามหลักธรรมวินัย ทั้งที่รับรู้อยู่แก่ใจว่าการถอนฟ้องของอัยการ มันมีอำนาจการเมืองเข้ามาแทรกแซง โดยนายทักษิณ ทำหนังสือ แจ้งไปยังอัยการ และกรรมการมหาเถร ด้วยข้ออ้างที่ว่า เพื่อความปรองดอง ขอให้ละเว้นการพิจารณาโทษ ธมฺมชโย
ถามว่า พวกกรรมการมหาเถร กล้ายอมรับคนเป็นปาราชิก ให้อยู่ร่วมได้ด้วยข้ออ้างความปรองดองกระนั้นหรือ
เช่นนี้พระธรรมวินัยจะยังคงความศักดิ์สิทธิ์ อยู่ได้กระนั้นหรือ
หากแค่คำว่าปรองดอง แต่ไม่แยกผิด แยกถูก ไม่แยกดี แยกชั่ว แล้วมหาเถร ยังจะมีหน้ามาปกครองสังฆมณฑล ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ได้อีกกระนั้นหรือ
หากมหาเถร เห็นว่าอาบัติปาราชิกเป็นเรื่องยอมความกันได้ วันข้างหน้าคงมีนักบวชปาราชิกเต็มห้องประชุมมหาเถร
หรือที่มีอยู่นี้ มันยังน้อยไป
รวมความแล้ว มหาเถร มีหน้าที่ปกป้องพระธรรมวินัยหรือปกป้องอลัชชีกันแน่
ความจริง ก็คือความจริง ต่อให้พยายามปกป้อง ปกปิด สุดท้าย ก็คือ ธมฺมชโยเป็นปาราชิกอยู่ดี
หากสังคมพึ่งพามหาเถร ทำให้เกิดความบริสุทธิ์ ในหมู่สงฆ์ไม่ได้
เช่นนั้น ต่อไปนี้ พุทธอิสระ คงต้องลุยฟ้อง ลุยแจ้งความ เก็บกวาดขยะพระธรรมวินัยให้ก็แล้วกัน
แต่ไม่ต้องกลัวนะ ทุกคดี ต้องมีพยานหลักฐาน พร้อมที่จะนำตัวอลัชชีทั้งหลายเข้าคุกได้แน่ๆ
ส่วนบรรดาลูกกระจอกลิ่วล้อ ที่ส่งเสียงเห่าหอน กระดิกหู กระดกหาง คิดว่า อลัชชีอาจารย์ตนเองชนะแน่ ก็มีสิทธิคิดได้
แต่ต้องเผื่อใจเอาไว้บ้างก็แล้วกันนะ เพราะศึกนี้ยังอีกยาวไกล
เตรียมทำใจไว้บ้างเผื่อผิดหวัง
การศึกยังไม่เสร็จ อย่าเพิ่งนับศพทหาร แต่ถ้าคิดว่าออกมาเห่าหอน แล้วจะสร้างความหวาดกลัวให้แก่ฉันได้ คงไม่สำเร็จหรอก
อ้อ..แล้ว ต้องไม่ลืมว่า หมาดีต้องกัด หมาเห่ากัดไม่เป็น
เห็นว่าส่งคนมาดูตัว สอบถามความเป็นอยู่ของฉันกันถี่ยิบขึ้น
ไอ้อีพวกที่มาท้า ให้พุทธะอิสระสึกน่ะ คิดดีแล้วหรือ
จำได้ว่าตอนเป็นวัยรุ่น พ่อแม่จะบอกฉันว่า ไอ้หนู ถ้ามึงไม่บวช คงมีโอกาสเป็นฆาตกรแน่น
ฉันไม่อยากเป็นฆาตกรจึงเข้ามาบวช
แล้วทำไมพวกคุณถึงอยากให้ฉันสึกจัง
อ่ะ อ่ะ อย่าพึ่งขี้ขึ้นสมองกันเสียก่อนนะ
หากฉันทำตามยุทธวิธีจนครบหมดแล้ว อลัชชีอาจารย์พวกคุณ มันยังรอด ลอยหน้าขาวด้วยครีมราคาแพงอยู่ได้
วันนั้นแหละ คุณจะได้เห็นฉันสึกแน่นอน
ไม่รู้ว่าฉันจะคุยกับพวกหางแดงอย่างพวกคุณรู้เรื่องหรือเปล่า
หากไม่รู้เรื่อง เพราะหัวกะโหลกไม่มีสมอง
ก็ลองถ่างตาดู ถ่างหูคอยฟัง แล้วลุ้นว่า รอดไม่รอด
อ้อ..แล้ว อย่าแถกแถไปว่า
การที่เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ รับทำคดีนี้ เพราะเป็นพวกเดียวกับพุทธะอิสระ
ขอบอกว่า ดีเอสไอ ยังฟ้องฉันเรียกค่าเสียหาย ๒ ล้านบาท เรื่องที่ทำให้ต้องเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยง ให้แก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ฉะนั้น อย่ามาอ้างว่า เจ้าหน้าที่ดำเนินการไม่ยุติธรรมอีก
พุทธะอิสระ
