องครักษ์พิทักษ์ธรรมกายและสมเด็จช่วงรู้สึกว่าพักนี้จะเสนอหน้ากันออกมาถี่มากขึ้น

“อ่า…เพราะฉะนั้น อยากจะเรียนท่านพุทธะอิสระ ด้วยความไม่รู้สึกอะไรกันนะฮะ ว่า..มันไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่เรื่องของเราที่ไปทำ อ่า…ถ้าทำอย่างเนี้ย มันกลายเป็นว่าใครใช้ให้ทำ มันเป็นข้อสงสัย

รัฐบาลชุดนี้ เค้าจะมีข้อสงสัยอยู่ ๒ เรื่อง ซึ่งต้องควรระวังตัว จากท่านพุทธะอิสระ

๑. เค้าสงสัยรัฐบาล ใช่ไม๊ฮะ ว่าทำอะไรต่ออะไรเนี่ย ทำไมต้องไปเกรงใจพุทธะอิสระ ถูกไม๊ฮะ แม้แต่การยื่นเรื่องอะไรต่ออะไรเนี่ย พระองค์อื่น…เค้าไม่ออกมาต้อนรับ อ่า มีอะไรกัน

๒. เรื่องเนี้ยะ ที่รัฐบาลบอกว่า.. อ๊ะ มีปัญหา ท่านพุทธะอิสระท่านยื่นเรื่องมา ขอให้คณะสงฆ์ไปเคลียร์กันก่อน เคลียร์ยังไง กฎหมายอะไรคือเรื่องเคลียร์ มันไม่มีคำพูดเหล่านี้เลย ถ้าเคลียร์ได้ผมถึงจะตั้ง ท่านนายกไม่ได้ตั้งน๊า เจริญพรท่านนายกรัฐมนตรีทีเดียว ท่านไม่ได้ตั้งนา และไอ้เรื่องเนี้ยะ มันก็กลายเป็นความระแวงนายกว่า ทำไมต้องฟังพระองค์นี้องค์เดียว เบื้องหลังพระองค์เนี้ยะ มีใครอีกหรือเปล่า เนี่ยแหล่ะ คือสิ่งที่.. (นักข่าว : รัฐบาลจะต้องระวังด้วยใช่ไม๊ฮะ) ต้องระวัง เอ้อ! ต้องระวัง แล้วก็.. ในการจะเป็นอะไรสักอย่างเนี่ย เค้าไม่ได้ฟังเสียงท้วงนะ เค้าไม่ได้มีระบบว่า คุณต้องฟังเสียงท้วงแล้วก็ยืดไปก่อน”

พร้อมกันนี้ยังฝากไปถึงพระพุทธะอิสระว่า ไม่ควรออกมาต่อต้าน เพราะไม่ใช่หน้าที่ และไม่ควรนำเรื่องของวัดพระธรรมกายมาเกี่ยวข้อง เพราะที่ผ่านมา สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะโอบอุ้มวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด รวมถึงอย่านำคดีรถหรูมาทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เพราะคดียังไม่สิ้นสุด อีกทั้งรถคันดังกล่าวก็นำมาซ่อมใหม่ ไม่ได้หรูหราอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

(NEWSROOM https://youtu.be/Zg8lFRKw2vo)

ฟังเจ้าคุณตุ๊ดตู่ เค้าลอยหน้าลอยตา ให้สัมภาษณ์แล้ววิจารณ์กันเอาเอง

พุทธะอิสระ