เรามาลองดูสถานการณ์คลังของชาติไทยกัน
๗ กรกฎาคม ๒๕๖๘
เรามาลองดูสถานการณ์คลังของชาติไทยกันว่า ในยุครัฐบาล คสช. ที่พวกนักลากตั้ง มักจะพูด มักจะพ่น มักจะบ่น กันว่า รัฐบาลทหาร รัฐบาลเผด็จการ ทำให้ประเทศถอยหลัง ไม่ก้าวหน้า จะมีข้อแตกต่างกับรัฐบาลของพวกประชาธิปไตยอย่างไรบ้าง
คสช. ยึดอำนาจจากรัฐบาลนายกปูตั้งแต่วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ขณะนั้นมีเงินคงคลังเหลือ 179,324 ล้านบาท แล้วรัฐบาลมีหนี้สินจากโครงการรับจำนำข้าวที่รัฐบาลปูทำเอาไว้อยู่ถึง 957,000 ล้านบาท
พอมาถึงปี ๒๕๕๘ รัฐบาล คสช. บริหารประเทศครบ ๑ ปี เงินคงคลังเพิ่มขึ้นถึง 386,497 ล้านบาท ทั้งที่รัฐบาลทุ่มงบลงทุนพัฒนาประเทศด้วยการพัฒนาทางหลวงสายหลักทั้งการขยายช่องจราจร 4 ช่องทาง ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายพัฒนา-มาบตาพุด พัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเพื่อรองรับสินค้าและเรือ พัฒนาท่าเรือชุมพรและสงขลา รวมทั้งพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ระบบรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งสินค้า และการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ เช่น โครงการรถเมล์เอ็นจีวี
โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก เพื่อแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทั้งด้านอุทกภัย ปัญหาการขาดแคลนน้ำ คุณภาพน้ำและการบริหารจัดการน้ำให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแนวทางการบริหารจัดการน้ำในภาพรวม ซึ่งมีเป้าหมายระบายน้ำในแนวเหนือ-ใต้ ตั้งแต่คลองเจ้าเจ็ดต่อเนื่อง ไปออกสู่ทะเลอ่าวไทยให้ได้มากที่สุด เพิ่มขึ้นจาก 52 เป็น 130 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดปริมาณการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยระบายน้ำท่วมในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยสามารถรองรับปริมาณน้ำหลากตอนบนของพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา และช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่
รวมทั้งใช้หนี้ในโครงการจำนำข้าวของนายกปูด้วย
พอมาถึงปี ๒๕๖๐ รัฐบาลเหลือเงินคงคลัง 180,910 ล้านบาท
ปี ๒๕๖๑ เงินคงคลังมีเพิ่มขึ้นถึง 379,898 ล้านบาท
และปี ๒๕๖๒ เงินคงคลังมีอยู่ 316,370 ล้านบาท ทั้งที่ประเทศชาติต้องเผชิญต่อภัยโรคโควิด ๑๙ จนทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกซบเซา
อีกทั้งรัฐบาล คสช. ในขณะนั้นก็ยังดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เป็นระยะๆ พร้อมทั้งลงทุนใน
โครงการพัฒนาถนนท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Southern Riviera) ช่วงชุมพร-สงขลา
โครงการสถานที่บริการทางหลวงบางละมุง บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด
โครงการที่พักริมทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี
โครงการที่พักริมทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา
โครงการศูนย์บริการทางหลวงศรีราชาบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ช่วงชลบุรี-พัทยา
โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1
โครงการก่อสร้างปรับปรุงท่าเทียบเรือเฟอร์รี่เกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
โครงการก่อสร้างเพื่อพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณท่าเทียบเรือท่าช้าง กรุงเทพมหานคร
โครงการก่อสร้างเพื่อพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณท่าเทียบเรือท่าเตียน กรุงเทพมหานคร
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานตรัง
ปี ๒๕๖๓ รัฐบาล คสช. มีเงินคงคลังอยู่ถึง 473,001 ล้านบาท ทั้งที่ยังทุ่มงบลงทุนในโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ดังนี้
โครงการ Motorway สายบางปะอิน-โคราช ในส่วนของ O&M ของกรมทางหลวง (ทล.) โครงการ Motorway สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ในส่วนของ O&M ของ ทล. โครงการจัดประโยชน์ที่ดิน โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ ของสหโรงแรม รวมถึงโครงการการจัดให้เช่าที่ราชพัสดุสนามกอล์ฟบางพระ ของกรมธนารักษ์ และโครงการศูนย์การขนส่งฯ นครพนม ของกรมการขนส่งทางบก โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
ปี ๒๕๖๔ มีเงินคงคลัง 337,182 ล้านบาท
ปี ๒๕๖๕ เงินคงคลัง ก็ยังมีถึง 372,125 ล้านบาท
แต่พอมาถึงยุครัฐบาลประชาธิปไตยของนายเศรษฐา ปี ๒๕๖๖ รัฐบาลเหลือเงินคงคลัง 209,616 ล้านบาท โดยพยายามทำโครงการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ
พอมาถึงปี ๒๕๖๗ – ๒๕๖๘ ในเดือน มีนาคม รัฐบาลเหลือเงินคงคลังเหลืออยู่ 215,366 ล้านบาท และมีหนี้สินภายในประเทศเป็นเงิน 10,719,141 ล้านบาท
อีกทั้งจะต้องควักเงินคงคลังออกมาใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในโครงการแจกเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท เฟส ๓ วงเงินงบประมาณ ๒๗,๐๐๐ ล้านบาท (ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของรัฐบาล และยังไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอน)
เฟส 1 ใช้เงินไป 145,000 ล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่โดยความเป็นจริงคือช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มทุนและนายทุนเงินกู้
เฟส 2 ใช้เงินไป 30,000 ล้านบาท เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่โดยความเป็นจริง ทุกอย่างเงียบสนิท
มันเงียบจริงๆ พี่น้อง เงียบเสียจนทุกคนคิดว่า นี่คนไทยเรากำลังเข้าสู่สถาวะนิโรธกันทั้งประเทศแล้วหรือ
พุทธะอิสระ
——————————————–
อ่านย้อนหลัง : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid02DcryqqKwRfr3G5RYnn6crQuf58tEtmt5oVe9PYwoUSxUcnSG3K6oyMuLrWsWvYRUl
——————————————–
Let’s take a look at the national treasury situation.
July 7, 2025
Let’s take a look at the national treasury situation. During the National Council for Peace and Order (NCPO) government, politicians often complained that the military government and the dictatorship government caused the country to regress and not develop. How did it differ from the democratic government?
The NCPO seized power from the government of Prime Minister Pu on May 22, 2014. At that time, the treasury remained at 179,324 million baht, and the government had debts from the rice pledging scheme implemented by the Pu’s government totaling 957,000 million baht.
In 2015, the NCPO government was in power for one year; the treasury increased by 386,497 million baht, even though the government invested in infrastructure development of major highways, including expanding four traffic lanes, the Phatthanakan-Map Ta Phut motorway, Laem Chabang Port Expansion to accommodate goods and ships, development of the Chumphon and Songkhla Ports, as well as the upgrade of the Suvarnabhumi and Don Mueang Airports, six routes of dual-track railway system to increase capacity for goods transportation, and development of public transportation systems, such as the NGV bus project.
The project to improve the Chao Phraya River irrigation system on the west bank to solve flooding, water shortages, water quality, and water management to be consistent with the overall water management strategy, which aims to as much as possible drain water in the north-south direction from the Chao Chet Canal continuously to the Gulf of Thailand, increasing from 52 to 130 million cubic meters per second to reduce the amount of water discharged into the Tha Chin River and the Chao Phraya River, to drain floodwater in the areas on the west bank of the Chao Phraya River, which accommodates the amount of floodwater in the upper part of the areas on the west bank of the Chao Phraya River and help reduce flooding in the area.
Including paying off debts from the rice pledging program of Prime Minister Pu.
In 2017, the government had 180,910 million baht in the treasury.
In 2018, the treasury increased to 379,898 million baht.
In 2019, the treasury was 316,370 million baht, though the country was facing the COVID-19 pandemic, which caused the global economy to stagnate.
In addition, the NCPO government at that time also implemented various economic stimulus projects periodically, along with investing in
Southern Coastal Tourist Road Development Project (Thailand Southern Riviera) Chumphon-Songkhla Section
Bang Lamung Highway Service Station Project on Motorway No.7, Pattaya-Map Ta Phut Section
Roadside Rest Area Project on Motorway No. 7, Bang Yai-Kanchanaburi Section
Roadside Rest Area Project on Motorway No. 7, Bang Pa In-Nakhon Ratchasima Section
Sri Racha Highway Service Center Project on Motorway No. 7, Chonburi-Pattaya Section
Suvarnabhumi Airport Passenger Terminal 2 Construction Project
Chiang Mai Airport Development Project, Phase 1
Koh Samui Ferry Pier Improvement Construction Project, Koh Samui District, Surat Thani Province
Construction Project to Develop Facilities of the Tha Chang Pier Area, Bangkok
Construction Project to Develop Facilities in the Tha Tien Pier Area, Bangkok
Nakhon Si Thammarat Airport Development Project
Trang Airport Development Project
In 2020, the NCPO government had a treasury of 473,001 million baht, despite continuously investing in the following projects.
Bang Pa-in – Korat Motorway Project in the Operation and Maintenance Section of the Department of Highways
Bang Yai – Kanchanaburi Motorway Project in the Operation and Maintenance section of the Department of Highways
The Grand Hyatt Erawan Hotel’s land utilization project of the Syndicate of Thai Hotels and Tourists Enterprises Limited, including the Treasury Department’s leasing of the royal land of Bang Phra Golf Course
The Nakhon Phanom Transportation Center Project of the Department of Land Transport
Orange Line Electric Train Project Bang Khun Non-Min Buri (Suwinthawong) section of the Mass Rapid Transit Authority of Thailand
In 2021, the treasury was 337,182 million baht.
In 2022, the treasury was still 372,125 million baht.
However, in 2023, the democratic government of Prime Minister Srettha had 209,616 million baht left in the treasury. The government tried to implement investment projects to stimulate the economy and attract foreign investors.
Later in 2024-2025, as of March 2025, the government had 215,366 million baht left in the treasury and domestic debt of 10,719,141 million baht.
In addition, the government plans to spend a budget of 27,000 million baht on Phase 3 of the 10,000 baht handout project (currently under consideration by the government with no specific date yet).
Phase 1 cost 145,000 million baht to help stimulate the economy. Nevertheless, in reality, it stimulated the economy of the capitalists and loan sharks.
Phase 2 spent 30 billion baht to stimulate the economy, but in reality, everything was completely still.
It is quiet, my brothers and sisters. It is so quiet that everyone thinks that we Thais are entering a state of nirvana.
Buddha Isara
——————————————–
Previous article : https://www.facebook.com/buddha.isara/posts/pfbid02DcryqqKwRfr3G5RYnn6crQuf58tEtmt5oVe9PYwoUSxUcnSG3K6oyMuLrWsWvYRUl
