ปีใหม่และวันเกิดปีวัวธนูปีนี้ มีสิ่งดีๆ ส่งท้ายปีให้แก่ พุทธะอิสระ รู้สึกซาบซึ้งยิ่ง
ขอบคุณ ท่านด็อกเตอร์สุวินัย ที่สู้อุตสาห์เป็นกำลังใจให้แก่ฉันมาตลอด
ขอบคุณในความเชื่อมั่นที่คุณมีต่อผู้ที่ไม่มีอะไร ไม่เคยได้อะไร ไม่เหลืออะไร และหวังอยู่ตลอดเวลาว่า จะต้องตายอย่างภาคภูมิ
ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ
พุทธะอิสระ
๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๓
————————————————–
‘สุวินัย’ซูฮก’พุทธะอิสระ’กับภารกิจล้มยักษ์ธรรมกาย ชี้อีกร้อยปีข้างหน้าจะเป็นตำนานเล่าขานสืบต่อกัน
29 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09:09 น. ไทยโพสต์
29 ต.ค 62 – นายสุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย โสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาดังนี้
ปากคำประวัติศาสตร์ของหลวงปู่พุทธะอิสระ
การประชุมคณะสงฆ์ เรื่องการกลับมาครองจีวรของพุทธะอิสระในตอนบ่ายวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2562 น่าจะถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ก็ว่าได้สำหรับนักประวัติศาสตร์ในอนาคต
ส่วนคนที่อยู่ร่วมสมัยกับพุทธะอิสระ ได้รู้จัก รับรู้ ติดตามการต่อสู้เพื่อปราบมารศาสนาของพุทธะอิสระโดยเฉพาะลัทธิธรรมกายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา … ที่ดำเนินควบคู่ไปกับการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจรัฐระหว่างชนชั้นนำสองฝ่ายในปลายสมัยรัชกาลที่ 9 ที่ดึงประชาชนของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมต่อสู้บนท้องถนนด้วย จนเป็นที่มาของความแตกแยกทางความคิดอย่างรุนแรงครั้งใหญ่ในสังคมไทยที่ยืดเยื้อยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน
นี่คือคำให้การหรือปากคำประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งของพุทธะอิสระที่เข้าไปเคลื่อนไหวเกี่ยวข้องกับการปกป้องพระศาสนาจากการครอบงำของลัทธิธรรมกายตามพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อนที่มอบหมายให้พุทธะอิสระไปดำเนินการ
นี่แทบเป็น “ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้เลย” ก็ว่าได้สำหรับการที่นักบวชคนหนึ่งที่ไม่มีอำนาจทางการเมืองใดๆอยู่ในมือเลยจะไปล้มยักษ์ธรรมกายที่มีอิทธิพลอย่างฝังรากลึกเข้าไปในอาณาจักรสงฆ์ถึงระดับศูนย์กลางอำนาจจนแทบเบ็ดเสร็จแล้ว ได้อย่างไร … แต่พุทธะอิสระก็ทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ แม้ตัวพุทธะอิสระจะต้องสูญเสียอะไรหลายอย่างไปมากมาย ทั้งสุขภาพ อิสรภาพ คำเยาะเย้ยถากถาง ถูกคนไม่รู้ก่นด่าจากทั่วสารทิศ
พวกนกกระจิบมีหรือที่จะเข้าใจจิตปณิธานของพญานกอินทรี
พวกปลาซิวที่ระริกระรี้ อยู่บนเกลียวคลื่น มีหรือจะเข้าถึง “ใจของน้ำ” ที่อยู่ใต้ทะเลลึกหนึ่งร้อยเชียะ
วิถีของมหาบุรุษคือการอาสาแบกรับความทุกข์ร้อนของแผ่นดินและวิกฤตของพระศาสนาโดยไม่ตัดพ้อ
ลูกผู้ชายที่แท้จริงไม่สร้างความปวดร้าวให้แก่คนอื่นแต่ยินยอมแบกรับความเจ็บปวดทั้งปวงไว้กับตนเอง
ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าในอีกห้าสิบปีหรือร้อยปีข้างหน้า “ตำนานของพุทธะอิสระ” จะเป็นที่เล่าขานสืบต่อกันมาเหมือน “ตำนานครูบาศรีวิชัย”
————————————————–
Thank for seeing the value of what I have done.
December 28, 2020
On New year and birthday in the year of the Metal Ox (according to Chinese zodiac), there are nice things before year end that Buddha Isara deeply appreciates.
Thank Dr. Suvinai for always giving me morale support.
Thank for believing in the person who has nothing, never obtains anything, and has nothing left, who always hopes for a dignified death.
Thank you. Thank you so much.
Buddha Isara
————————————————–
“Suvinai” admires “Buddha Isara” for his mission to overthrow the giant Dhammakaya. This will be a legend in the next hundred years.
October 29, 2019, 9:09 a.m., Thai Post
Historical testimony of Luangpu Buddha Isara
Oct 29, 2019 – Mr. Suvinai Pornavilai, strategic chairman of the Thai Direction Institute, posted on his Facebook page as follows.
The meeting of The Sangha Supreme Council of Thailand in the afternoon of Sunday October 27, 2019, on Buddha Isara’s return to monkhood, should be regarded as a historical event for historians in the future. For those who live in the contemporary era of Buddha Isara, who have known, are aware of, and have followed Buddha Isara’s fighting against the evil, shameless Buddhist monks, especially the Dhammakaya doctrine, for the past several years…..This happened at the same period of time in the late of King Rama IX’s reign that there were battles to seize government power from the two aristocratic sides that pulled people of both sides to join road protests. This led to the most important conflict of mindsets in the Thai society that has prolonged till now.
This was a historical testimony of Buddha Isara regarding his involvement in protecting Buddhism from the Dhammakaya doctrine’s influence because of the former Supreme Patriarch of Thailand’s request for Buddha Isara to cope with the Dhammakaya issue.
This was almost “an impossible mission” for a priest who had no political power to overthrow the giant Dhammakaya of which influence was deeply rooted in the Sangha regime, even to the core of power. However, Buddha Isara accomplished his mission although Buddha Isara himself lost many things including his health and freedom, and he has got a lot of insults and sarcasm from lots of people.
Do tailorbirds ever understand the aspirations of the eagle?
Do minnows that are enjoying sea waves would know “the heart of water” which is deep into the seawater.
This is way of a hero who volunteers to bear the country’s sufferings and the religious crisis without any compliant.
The true man will not cause pain to other people but is willing to absorb all the pain within himself.
I will not be surprised if in the next 50 or 100 years, “legend of Buddha Isara” will be a story that has been told, similar to “the legend of Khruba Siwichai”.
