มีบรรดาแกนนำของแต่ละจังหวัด ซึ่งนำโดยจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดภาคอีสานและเหนือ ๘-๙ จังหวัด
ส่วนใหญ่ฉันไม่คุ้นหน้า
ฉันเห็นว่าไม่น่าจะมีปัญหา หากเราสามารถชี้แจง แบ่งปันความรู้ให้แก่เขาได้ ก็นับว่าเป็นการทำประโยชน์ให้แก่แผ่นดิน
บ่าย ๒ โมงตรงของวันพุธที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๑ พวกเขาจึงมาพบ
เรื่องที่พวกเขามาขอพบคือ มาปรึกษาในประเด็นข้อกฎหมาย การก่อตั้งสภาประชาชน ตามที่กำหนดเอาไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา ๔๒ ว่าด้วยเรื่อง บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม สหกรณ์ สหภาพ องค์กร ชุมชน หรือหมู่คณะอื่น
และข้อรับฟังข้อคิดเห็นในประเด็นการจัดตั้งสภาประชาชนจากฉัน พร้อมทั้งพวกเขาได้แสดงเอกสาร หลักการ และเหตุผล ของการก่อตั้งสภาประชาชนให้ฉันได้ดู
สิ่งที่ฉันรู้สึกแปลกใจ ก็คือ เอกสารนำเสนอโครงการ มีรูปฉันเต็มหน้า ดังที่ปรากฏ
ทั้งที่ฉันไม่ได้รับรู้หรืออนุญาตใดๆ เลย
อีกทั้งในเอกสารเสนอแนะแผนภูมิลำดับขั้นของสภา
ยังมีการนำเอาคำว่า รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน อยู่เหนือคำว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้น
ฉันจึงได้ทักท้วงพวกเขาว่า
การเรียงลำดับแผนภูมิของสภาประชาชน ฉบับนี้ไม่น่าจะถูกต้อง
เมื่อพระมหากษัตริย์ทรงใช้พระราชอำนาจ พระราชทานรัฐธรรมนูญแล้ว
ทำไมถึงได้จัดแผนภูมิ ยกเอาคำว่ารัฐธรรมนูญอยู่เหนือคำว่า พระมหากษัตริย์เล่า
หากผู้ไม่รู้เห็นเข้า อาจจะเข้าใจผิดคิดว่าสภาประชาชนนี้กำลังหมิ่นสถาบัน
พุทธะอิสระจึงขอร้องให้พวกเขาไปแก้ไขให้ถูกต้อง
ส่วนในประเด็น เรื่องการก่อตั้งสภาประชาชนนั้น พุทธะอิสระเห็นด้วย เพราะเป็นแนวคิดของเวทีแจ้งวัฒนะมาตั้งแต่ต้นแล้ว
อีกทั้งพุทธะอิสระยังเคยเดินทางไปยื่นหนังสือ ร้องขอให้คุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ในครั้งนั้นยังเป็นประธานยกร่างรัฐธรรมนูญ ขอให้บรรจุคำว่า สภาประชาชน เอาไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย
แต่คุณบวรศักดิ์ กลับท้วงว่า เปลี่ยนเป็นสมัชชาประชาชนจะดีกว่า มีความหมายครอบคลุมกว้างขวางกว่า อีกทั้งจักได้ไม่ไปซ้ำกับสภานิติบัญญัติ สภาผู้แทนราษฎร
ต่อมาหลังจากคุณมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่สองเข้ามาทำหน้าที่ยกร่าง
พุทธะอิสระก็ได้ไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้บรรจุคำว่าสภาประชาชน เอาไว้ในรัฐธรรมนูญจนเป็นที่มาของรัฐธรรมนูญ มาตราที่ ๔๒ ความว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม สหกรณ์ สหภาพ องค์กร ชุมชน หรือหมู่คณะอื่น
รัฐมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ที่ต้องส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชนชาวไทย ในการรวมตัวกันเป็นคณะบุคคล สมาคม หมู่คณะ องค์กรชุมชน เพื่อประโยชน์สาธารณะ รัฐต้องจัดให้มีกลไกการคุ้มครองประชาชนที่รวมตัวเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเรียกกลุ่มประชาชนนั้นว่าอย่างไร เป็นต้นว่า สภาประชาชน
แม้หลังจากเลิกเวทีแจ้งวัฒนะใหม่ๆ พุทธะอิสระยังได้ขอให้แกนนำของเวทีแจ้งวัฒนะ แต่ละจังหวัดต่างพากันแยกย้ายไปรวบรวมผู้คน จดแจ้งก่อตั้งสภาประชาชนประจำจังหวัด
เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในจังหวัดนั้นๆ
โดยมีเป้าหมายคือ ต้องเป็นที่พึ่งภาคประชาชนให้แก่ประชาชนผู้เดือดร้อน จากการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ อีกทั้งสภาประชาชนที่เวทีแจ้งวัฒนะคิดต้องทำหน้าที่ตามพระบรมราโชวาท ขององค์พ่อหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงพระราชทานไว้ว่า
เข้าใกล้
เข้าใจ
เข้าถึง
และพัฒนา
หากการจดแจ้งสภาประชาชน มีวัตถุประสงค์ดังนี้
ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง
ไม่เป็นนอมินีของกลุ่มอำนาจใดๆ
ไม่ถูกครอบงำ ขององค์กรและกลุ่มอำนาจใดๆ
พร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบและรับใช้ประชาชนทุกกรณี เพื่อขจัดปัญหา ลดความเดือดร้อน สร้างความรักสามัคคี เป็นพลังของแผ่นดิน ในการพัฒนาประเทศ และปกป้องชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องธำรงรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง
เช่นนี้จึงถือว่า สภานี้เป็นของประชาชน เพื่อชาติประชาชนอย่างแท้จริง
วันนี้ ผู้มาปรึกษา ที่จักจด จัดตั้งสภาประชาชน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
พุทธะอิสระก็รู้สึกไม่แน่ใจว่า จักมีหลักคิดเหมือนดั่ง สภาประชาชนของเวทีแจ้งวัฒนะหรือไม่
ยิ่งการนำเอารูปพุทธะอิสระไปเป็นโลโก้โชว์ในที่สาธารณะ โดยมิได้ขออนุญาต
ยิ่งทำให้พุทธะอิสระหวั่นว่า อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ในภายหลัง หากกลุ่มนี้มีความจริงใจ ที่จักกระทำเพื่อประโยชน์ชาติ ประชาชนอย่างแท้จริง มันต้องเริ่มต้นตั้งแต่ ไม่ทำในสิ่งที่ผิดจริยธรรมใดๆ ก่อน
หากนำเอารูปพุทธะอิสระมาใช้เป็นโลโก้ โดยที่พุทธะอิสระไม่ได้รับรู้เช่นนี้
ไม่น่าจะถูกต้อง เมื่อเริ่มไม่ถูกต้องแล้ว หลักคิด หลักทำ ก็ไม่น่าจะถูกต้อง
วันนี้จึงต้องเขียนอธิบาย ชี้แจง ให้ท่านทั้งหลายได้รับทราบ จะได้ไม่เข้าใจผิดไปว่า พุทธะอิสระรู้เห็นด้วย ร่วมมือด้วย
ทั้งที่โดยแท้จริงแล้ว พุทธะอิสระไม่ได้รับรู้ใดๆ เลย
จริงๆ แล้วหลักคิดการก่อตั้งสภาประชาชน เพื่อประโยชน์ชาติ ประโยชน์ประชาชน เป็นสิ่งที่ดีงาม
แต่จะดีงามมากๆ หากผู้จัดตั้งควรจักต้องทำให้ถูกต้องชอบธรรมด้วย เช่นนี้จึงจักได้รับการเชื่อถือ ศรัทธา แก่ผู้ร่วมอุดมการณ์
หวังว่าท่านทั้งหลาย คงจะได้เข้าใจกระจ่างชัดแล้วนะ
พุทธะอิสระ
